AS พ้นพันธนาการ SABUY

หลังจากหุ้นเกมอย่าง AS ไปอยู่ภายใต้ปีกหุ้นตู้เวนดิ้ง SABUY ที่กุมบังเหียนโดย “ชูเกียรติ รุจนพรพจี” เกือบ 2 ปี ก็ยังไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลง..!?


หลังจากหุ้นเกมอย่างบริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS หรือรู้จักในชื่อเดิมบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไปอยู่ภายใต้ปีกหุ้นตู้เวนดิ้ง บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ที่กุมบังเหียนโดย “ชูเกียรติ รุจนพรพจี” เกือบ 2 ปี (ตั้งแต่ปลายปี 2565) ก็ยังไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลง..!?

ยกเว้นโครงสร้างผู้ถือหุ้น ที่มี SABUY เข้ามาถือหุ้นใหญ่เบอร์สอง จำนวน 122.92 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.07% เป็นรองแค่ “ปราโมทย์ สุดจิตพร” ที่ถือหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่ง จำนวน 148.74 ล้านหุ้น คิดเป็น 29.12% ตามด้วยการเปลี่ยนแปลงบอร์ด มีคนจาก SABUY เข้ามาร่วมเป็นกรรมการ

อ้อ…มีการเปลี่ยนชื่อจาก บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาเป็น บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ด้วยนะ

แต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานไม่มีพัฒนาการเชิงบวกให้เห็นเลย…

ไม่มีพัฒนาการเชิงบวกไม่พอ มิหนำซ้ำ ผลประกอบการยังตกต่ำกว่าเดิมอีก…จากช่วงปี 2563-2564 เคยมีกำไรระดับ 300-400 ล้านบาท มาปี 2565 กำไรลดเหลือ 200 ล้านบาท ปลาย ๆ ส่วนปี 2566 กำไรลดลงไปอีก เหลือแค่ 218 ล้านบาท เท่านั้น ขณะที่ไตรมาส 1/2567 มีกำไรแค่ 76 ล้านบาท ถ้าติ๊งต่างว่าอีก 3 ไตรมาสที่เหลือ กำไรอยู่ระดับนี้ ทั้งปีกำไรไม่ถึง 300 ล้านบาทนะ

ด้านรายได้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ก็ลดลงต่อเนื่อง…

เลยถูกตั้งคำถามว่า AS มาอยู่ใต้ปีก SABUY ดีจริงป๊ะเนี่ย..??

เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดเยอะ…เจ็บคอ…คำตอบอยู่ที่ผลประกอบการของ AS นั่นแหละ คงเห็นกันอยู่ทนโท่..!!

แต่เมื่อ SABUY ถูกปัญหาชีวิตรุมเร้า AS ที่อยู่ใต้ปีก SABUY ก็กลับมาอยู่ใต้ปีก “กลุ่มสุดจิตพร” แบบเบ็ดเสร็จเหมือนเดิม

จากกรณีล่าสุด “ปราโมทย์” ได้ซื้อบิ๊กล็อตหุ้น AS จาก SABUY แบ่งเป็น 2 ก้อน…ก้อนแรก ซื้อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 จำนวน 25 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.0075% ที่ราคาหุ้นละ 3.68 บาท มูลค่า 92 ล้านบาท ส่วนอีกก้อน ซื้อวันที่ 28 มิ.ย. 2567 จำนวน 11.78 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.3588% ที่ราคาหุ้นละ 4 บาท มูลค่า 41.10 ล้านบาท ทั้ง 2 ธุรกรรมทำรายการผ่าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)

ส่งผลให้ “ปราโมทย์” ถือหุ้นเพิ่มเป็น 185.31 ล้านหุ้น คิดเป็น 37.1193% จากเดิมถือหุ้นอยู่ 148.54 ล้านหุ้น คิดเป็น 29.7529%

แต่ถ้าไปดูฝั่ง SABUY จะพบว่าช่วงระหว่างวันที่ 26-28 มิ.ย. 2567 ได้ขายบิ๊กล็อตรวมกันจำนวน 59.78 ล้านหุ้น นั่นหมายความว่า นอกจากจะขายให้ “ปราโมทย์” สองก้อนรวมกัน 36.78 ล้านหุ้นแล้ว ในวันที่ 27 มิ.ย. 2567 ก็ได้ขายบิ๊กล็อตอีกก้อนจำนวน 23 ล้านหุ้น ด้วยนะ ส่วนใครมารับไปนั้น ในราคาหุ้นละเท่าไหร่..?? ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูล

ขณะที่ ข้อมูลอัพเดทล่าสุด SABUY จะเหลือถือหุ้น AS จำนวน 49.77 ล้านหุ้น คิดเป็น 9.97% เท่านั้น

ส่วน SABUY จะขายหุ้น AS ออกมาอีกมั้ย..?? และขายเมื่อไหร่..?? เป็นช็อตที่ต้องติดตามกันต่อไป

โอเค…แม้ตอนนี้ SABUY ยังเหลือหุ้น AS อยู่ แต่ดูเหมือนว่า AS พ้นพันธนาการ SABUY ไปแล้วนะ..!?

ก็น่าสนใจ หลังจาก AS ปลดเปลื้องพันธนาการจาก SABUY จะไปยังไงต่อ..??

จะกลับมาเติบโตได้ตามครรลองคลองธรรมหรือไม่..??

หรือจะมีใครเข้ามาเซ้งต่อ…ขึ้นอยู่กับ “กลุ่มสุดจิตพร” แล้วล่ะ..!?

ว่าแต่เห็นราคาหุ้น AS วานนี้ (3 ก.ค.) ระหว่างวันดีดดิ้นขึ้นไปแตะที่ 5.05 บาท ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดตลาดที่ 4.58 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 4.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 148.95 ล้านบาท

ตอบรับการกลับมาอยู่ใต้ปีก “กลุ่มสุดจิตพร” ใช่ป๊ะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button