รอบก่อนจบที่ 1,325 จุด

การทะยานขึ้นของดัชนีถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีก็จริง แต่อย่าลืมว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และลงเอยด้วยการม้วนตัวลงไปที่เดิมเป็นประจำ “โมนิก้า” เลยมองว่า เที่ยวนี้มีจุดท้าทายอยู่ที่ระดับ 1,325 จุด เพราะเป็นแนวต้านที่มีแรงขายถล่มออกมาไม่ยั้ง พร้อมกับมีประเด็นที่สร้างความอึดอัดใจให้กับนักลงทุนเยอะแยะไปหมด จึงกลายเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องวอรี่นิดหนึ่งนะจ๊ะ

ถึงกระนั้นถ้ามองเรื่องพื้นฐานเป็นที่ตั้งก็ต้องบอกว่า นี่เป็นระดับที่ลงทุนได้สบาย ๆ เพราะมีหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะมองจากมุมของ PE BV หรือแม้กระทั่งปันผล ล้วนจูงใจให้ซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต แต่ที่ผ่านมาดันเจอพิษของโรบอทเล่นงาน พ่วงด้วยชอร์ตเซล และถูกซ้ำดาบสามด้วยฟอร์ซเซล ก่อนจะถูกปิดเกมด้วยฝรั่งขายแบบอันลิมิต ตลาดหุ้นไทยถึงเป๋แบบกู่ไม่กลับไงล่ะจ๊ะ

วันนี้เลยต้องถามว่า การที่ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,301.04 จุด บวกไป 6.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.97 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นใหญ่แบบเฉพาะเจาะจง ย่อมเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกใจชื่นสุด ๆ และเป็นจังหวะที่เหมาะต่อการโหนกระแสสำหรับคนที่กล้าได้กล้าเสีย เพราะยังมีแก๊ปให้นักลงทุนหาค่าขนมก่อนถึงวันหยุด..ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่? นักลงทุน “ต้องคิด” และ “พิสูจน์” ด้วยตัวเอง..อิอิอิ

เหมือนกับการเด้งกลับของหุ้น DELTA เป็นวันที่สองด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นกว่าวันก่อน ๆ พร้อมกับปิดไปที่ระดับ 84.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 760 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่หลายคนมองว่า การขึ้นไปหายอดเก่าที่บริเวณ 88 บาทไม่ใช่เรื่องยาก! ส่วนขึ้นไปถึงแล้ว..จะเป็นอย่างไรต่อ ก็ไม่มีใครตอบได้ เพราะวันนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักอย่างน่ะซี

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น CRC เพื่อชี้ให้เห็นเรื่อง cover short กลายมาเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริง และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าลุ้นว่า หุ้นตัวนี้จะไปไกลขนาดไหน? แถมเที่ยวนี้มีเรื่องคนที่ได้ประโยชน์จากซูเปอร์แอปฯ เข้ามาเป็นแรงเสริม จึงกลายเป็นสองแรงบวกที่ทำให้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 31.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 665 ล้านบาทพะย่ะค่ะ

อีกรายที่เดี๊ยนค่อนข้างชอบ และอยู่ในทิศทางโตต่อเนื่อง “โมนิก้า” ขอมองไปที่น้องมิ้น MINT เป็นรายถัดมา เพราะทุกครั้งที่หุ้นใหญ่ยกแผงขึ้นทีไร มักมีหุ้นตัวนี้ติดกลุ่มด้วยเป็นประจำ ผนวกกับราคาหุ้นเพิ่งเด้งขึ้นหลังจากลงเป็นเวลานาน เดี๊ยนเลยมองว่า ดาวน์ไซด์ต่ำ แถมเที่ยวก่อนที่เล่นกันเป็นประจำอยู่ที่บริเวณ 34 บาท จึงเชื่อได้ว่า การยืนปิดที่ระดับ 30.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 414 ล้านบาท น่าสนใจจ้า!

เช่นเดียวกับในรายของ BANPU ก็อยู่ในช่วงเคลียร์บ้านให้เรียบร้อย และเป็นจังหวะเดียวกับราคาหุ้นตอบรับข่าวร้ายไปหมดแล้ว “โมนิก้า” เลยมองว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 5 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 452 ล้านบาท เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามหลักการทุกอย่าง ยิ่งมองในมุมของอัตราเงินปันผลตอบแทนที่อยู่ในระดับ 8% ก็เหมาะทั้งการเล่นสั้นและเล่นยาวนะตัวเอง

ในเมื่อหลายอย่างเริ่มเข้าที่ (เขาว่ากันแบบนั้น) “โมนิก้า” ต้องเหลือบมองไปที่หุ้น GUNKUL เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้แฟนคลับอีกครั้ง เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.52 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 53 ล้านบาท มันเป็นราคาฐานที่เล่นกันเป็นประจำก่อนหน้านี้ แถมโลว์เดิมที่วนไปวนมาในช่วง 3 เดือนอยู่ที่ระดับ 2.42 บาทแบบนี้..คุณว่า เสี่ยงไหมล่ะคะ

ตบท้ายที่เรื่องขายชาติกันสักหน่อย เพราะไปที่ไหน..ก็มีแต่ชาวบ้านถาม “โมนิก้า” เรื่องนี้จนหูดับไปชั่วขณะ ซึ่งเป็นผลมาจากรัฐบาลชุดนี้เคยด่ารัฐบาลชุดก่อนไว้เยอะ พอตัวเองคิดอยากจะทำโครงการให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี และเพิ่มสัดส่วนการถือครองคอนโดเป็น 75% ก็ทำให้ชาวบ้านด่าไฟแลบแบบนี้..เขาเรียกว่า ปากพาซวยของแทร่!

โมนิก้า: และทีมงาน