SYNEX รับแรงเห่อ Apple Intelligence
Apple ประกาศเปิดตัว Apple Intelligence ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานในอุปกรณ์รุ่นใหม่ กลายเป็นปัจจัยหนุน SYNEX ในฐานะผู้นำเข้า
คุณค่าบริษัท
การที่ Apple ประกาศเปิดตัว Apple Intelligence ในการนำ ChatGPT มาใช้ รวมถึงการยกเครื่อง SIRI ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานในอุปกรณ์รุ่นใหม่ กลายเป็นปัจจัยหนุนบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ในฐานะผู้นำเข้าแบรนด์ Apple มาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแสการซื้อสินค้าเพื่ออัปเกรดอุปกรณ์ของตนเอง และมีความต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เร็วขึ้นกว่าเดิม
โดยในไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา พอร์ตสินค้า Apple ของ SYNEX เติบโตถึง 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งสินค้าในกลุ่ม iPhone เติบโตถึง 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 151.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 135.54 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 9,605.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.96% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนรายได้จากการขายและให้บริการ 9,150.92 ล้านบาท
ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 SYNEX มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มเครื่องมือสื่อสาร 45% กลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์ 35% กลุ่มคอมเมอร์เชียลมีสัดส่วน 19% และอื่น ๆ อีก 1%
ที่น่าสนใจ นอกจากแบรนด์ Apple ที่เติบโตดีแล้ว สมาร์ตโฟนค่ายอื่น ๆ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น SAMSUNG, HUAWEI, HONER และอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่น AI สร้างกระแสตอบรับแบบถล่มทลาย รวมถึงการเปิดตัวของสินค้ากลุ่มอุปกรณ์โน้ตบุ๊กหลากหลายค่าย ซึ่งเป็นอีกแรงหนุนการเติบโตของ SYNEX
ขณะที่ ปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตแตะ 40,000 ล้านบาท จากปี 2566 ที่มียอดขายอยู่ที่ระดับ 36,618 ล้านบาท ด้วยจุดเด่นการบริหาร Product Mix ที่มีประสิทธิภาพ
ด้านบล.ทิสโก้ ระบุว่า SYNEX ในไตรมาส 2/2567 โมเมนตัมกำไรจะลดลงจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยฤดูกาล แต่จะฟื้นตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้ iPad Pro ใหม่จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเติบโตของรายได้ ในขณะที่ smart wearable ของ Huawei จะเป็นตัว catalyst อีกตัวสำหรับกลุ่มการสื่อสาร ด้านรายได้คาดว่าจะเติบโตจากกิจกรรมพิเศษของแบรนด์และการขยายธุรกิจซอฟต์แวร์ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็น uptrend ของราคาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหน่วยความจำและผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มในกลุ่มผู้บริโภคจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM)
สำหรับปี 2567 คาดรายได้จากการขายจะเติบโตตัวเลขสองหลัก มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากกลุ่มการสื่อสาร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และการขยายช่องทาง อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของกลุ่มการค้าและผู้บริโภคน่าจะยังคงซบเซา
ขณะที่ บล.หยวนต้า ระบุว่า รายได้ในไตรมาส 2/2567 ของ SYNEX จะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากฐานต่ำ และแม้จะเป็นโลว์ซีซัน แต่ยอดจะไม่ตกมากจากไตรมาสก่อน เนื่องจากมีการเปิดตัวสินค้ามากกว่าปกติ เช่น การออก iPad Pro, Huawei watch fit3, Huawei Pura70 Ultra และ HONOR Magic6 นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้สินค้ากลุ่ม Software ของแบรนด์ Autodesk ในช่วงกลางไตรมาส 2/2567 แต่ตลาด Commercial ยังเติบโตจำกัด
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น SYNEX ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 20.79 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.03 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 2.59 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.22 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 12.56 บาท จากราคาต่ำสุด 10 บาท และราคาสูงสุด 13.30 บาท