SET Index-ราคาหุ้นไทย สะท้อนกำไรหด-ธรรมาภิบาลถดถอย (1)

สำหรับคำตอบสุดท้าย ของการกำหนดทิศทางการปรับตัวขึ้น-ลง ของราคาหุ้นทุกบริษัทในโลกใบนี้ อยู่ที่ “กำไร-ขาดทุน” ของบริษัทนั้น ๆ


สำหรับคำตอบสุดท้าย ของการกำหนดทิศทางการปรับตัวขึ้น-ลง ของราคาหุ้นทุกบริษัทในโลกใบนี้ อยู่ที่ “กำไร-ขาดทุน” ของบริษัทนั้น ๆ

รวมถึง ความมีธรรมาภิบาลของบรรดาตัวผู้บริหารเอง ที่มีความซื่อสัตย์ต่อผู้ลงทุนมากน้อยเพียงใด

สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องปกติสามัญที่เป็นตัวแปรสำคัญของการเคลื่อนไหวของหุ้นทั่วโลก

แต่ยังมีนักลงทุนไทยจำนวนไม่น้อย ที่ไปหลงเชื่อว่า การ Short sell คือปัญหาที่ทำให้หุ้นไทยตกต่ำได้ขนาดนี้

การตั้งแคมเปญ “ขอ 1 เสียงร่วมกันเรียกร้องไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านทางโทรศัพท์อีเมล เพื่อร่วมกันเรียกร้องให้ยุติการชอร์ตเซลชั่วคราว”

โดยพยายามอ้างอิง ตัวอย่างจาก ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ที่ยกเลิกการชอร์ตเซล แล้วหุ้นขึ้น นั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สามารถใช้อ้างอิงได้เสมอไป

สิ่งที่เราเห็นภาพภายนอกว่า ตลาดหุ้นเกาหลีปรับตัวขึ้นสูง แต่หากสำรวจภายในบรรดาหุ้นใหญ่ 200 ตัวแรก เราจะเห็นได้ว่าเกือบ 100 ตัว ที่ไม่ได้ปรับตัวขึ้นตาม และมีการเคลื่อนไหวที่ยังติดลบเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา

โดยหุ้นที่พยุงดัชนีของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ มีเพียงหุ้นหลัก ๆ ไม่กี่ตัวเท่านั้น

โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้น แต่ละตัวมีการเติบโตที่ชัดเจนหรือไม่ก็มีสตอรี่ ที่มีความเกี่ยวข้อง กับ Theme ที่นักลงทุนสนใจ อาทิ AI, LNG, China +1 ,Tourism (free Visa)

สำหรับตัวอย่างของหุ้นที่ปรับลดลงอย่าง หุ้น LG Chem ที่ปีนี้ปรับตัวลดลงมาแล้ว 27% ซึ่งมากกว่า การปรับตัวลดลงของหุ้น บริษัท  พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ที่ร่วงลงแค่ 22% แต่อาจจะลงพอ ๆ กับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  SCC ที่ลงไปในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน 27% ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ยกเลิกชอร์ตเซลแล้วหุ้นจะขึ้นหมดทุกตัว

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ควรดู ก็คือ หุ้น ยอดฮิต ของนักลงทุนรายย่อยของเกาหลีคือ หุ้น Ecopro ซึ่งน่าจะเป็นหุ้นต้นเหตุที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยของเกาหลี ออกมาเรียกร้องทางการให้ออกมาตรการเรื่องของการยกเลิกชอร์ตเซล

แต่สิ่งที่เราเห็นก็คือ ในปีนี้ หุ้นตัวนี้ปรับตัวลดลงไปแล้ว 45% อยากให้นึกภาพหุ้นตัวนี้ก็เหมือนกับ หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ของบ้านเรา ที่เคย บวกขึ้นไฮปิดที่ 117.50 บาท (19 มิ.ย. 66)

โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้น DELTA มีส่วนสำคัญ ที่ทำให้ดัชนีของตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นสูงปิดที่ 1,556 จุด (19 มิ.ย. 66)

ช่วงนั้น หุ้น DELTA ได้สร้างความผันผวนให้เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยแบบมีนัยสำคัญ โดยมีการประกาศจะเข้าไปอยู่ใน SET50 ทำให้กองทุน ต้องเข้าไปถือหุ้น เพิ่มถ่วงน้ำหนัก ทำให้ราคาหุ้นทำนิวไฮ

แต่มาวันนี้ SET INDEX เหลืออยู่ที่ 1,323 จุด ลดลงมา -236 จุด

หุ้น DELTA กลับปรับตัวลดลง โดยราคาหุ้นวันนั้นจนถึงวันนี้ (10 ก.ค.) ปิดที่ 86.50 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -21.91% มีผลต่อดัชนีลดลง -25 จุด

หุ้น EA ราคาปรับตัวลดลง -79.82% มีผลต่อดัชนีลดลง -14.93 จุด

หุ้น AOT ราคาปรับตัวลดลง -17.75% มีผลต่อดัชนีลดลง -14.67 จุด

นอกนั้นก็ยังมี หุ้นที่กดดันดัชนี อาทิ SCC, IVL, CPAXT, BJC, TLI, HMPRO และ CPALL รวมอีก -40 จุด

ขณะที่ หุ้น Ecopro เคยบวกจากราคา 22,000 วอน ขึ้นไปสูงสุดถึง 260,000 วอน ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปี แต่มาวันนี้ราคาได้ไหลลงมาเรื่อย ๆ จนอยู่แถว ๆ แค่ 96,000 วอน

ธิติ ภัทรยลรดี (แทน)

Back to top button