โลกส่งสัญญาณของความไม่ปลอดภัย
ราคาทองคำกระโดดขึ้นต่อเนื่องสองวันซ้อน โดยล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมากระโดดขึ้นไปถึง 11.80 ดอลลาร์ แม้จะยังไม่แตะจุดสูงสุดแต่ก็เข้าใกล้เต็มที
ราคาทองคำกระโดดขึ้นต่อเนื่องสองวันซ้อน โดยล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมากระโดดขึ้นไปถึง 11.80 ดอลลาร์ แม้จะยังไม่แตะจุดสูงสุดแต่ก็เข้าใกล้เต็มที
ตลาดทองคำนิวยอร์กกลายเป็นขาขึ้นระลอกใหม่หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นายพาวเวลได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า “เฟดไม่ใช่ธนาคารกลางที่มีเป้าหมายอยู่ที่เงินเฟ้อเท่านั้น แต่เฟดมีภารกิจในการรักษาการจ้างงานเช่นกัน และเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ถึงจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย”
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 74% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 70% ในวันอังคาร (9 ก.ค.) และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 45%
ราคาทองคำในปัจจุบันที่เป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดความรู้สึกปลอดภัยของนักลงทุนที่เรียกว่าหลุมหลบภัยของการลงทุนหรือ Investment Haven ถึงแม้ว่ายุคของมาตรฐานทองคำจะไม่หวนกลับมาแล้วก็ตาม
ราคาทองคำในปีนี้ได้แตะจุดสูงสุดมาแล้ว 2 ครั้ง และในขณะนี้กำลังไต่ระดับไปสู่จุดสูงสุดระลอกใหม่ในยามที่โลกกำลังหวั่นไหวจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากการที่เฟดกำลังจะลดดอกเบี้ยลง
การที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประเด็นชั่วคราวของตลาดเก็งกำไร ไม่ใช่เรื่องแปลก
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ว่า เมื่อหาสิ่งที่ปลอดภัยชนิดใหม่ ๆ ไม่ได้ การกลับไปหาของตายเก่า ๆ เป็นทางเลือกที่ดีชั่วคราวที่พอจะหยิบฉวยขึ้นมาใช้ใหม่ได้ เพียงแต่ราคาทองคำในปัจจุบันนี้ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินกว่าประโยชน์ใช้สอย ถือเป็นราคาฟองสบู่ที่น่าเป็นห่วง เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่ฟองสบู่แตกโศกนาฏกรรมก็จะตามเป็นเงาขึ้นมา เพียงแต่ในยามนี้โลกคงไม่มีทางเลือกมากนัก
วิษณุ โชลิตกุล