หุ้นใหญ่ทยอยคัมแบ็ก

เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจจะเม้าท์ถึงเรื่องขึ้นค่าไฟหลังจากพ่อตัวดีอย่าง กกพ. ไม่ได้แยแสความรู้สึกของชาวบ้าน และไม่ได้รับรู้ว่า คนเขาด่าหน่วยงานนี้ทั้งบ้านทั้งเมือง แถมสิ่งที่ทำก็ไม่ได้ช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนทั่วไปดีขึ้น แต่เผอิญเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นตัวแสบอย่าง DELTA จึงขอยกยอดเรื่องดังกล่าวไว้วันข้างหน้า เพราะแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาในหุ้นตัวนี้ เหมือนบอกใบ้ท่าทีของต่างชาติกำลังเปลี่ยนไปน่ะซี

สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” เชื่อเช่นนั้นมาจากหุ้นใหญ่หลายตัวเริ่มขยับขึ้น ผนวกกับเรื่องเทคนิคที่เคยสร้างปัญหาเริ่มคลี่คลาย เดี๊ยนเลยไม่วอรี่แรงขายที่มาจากนักลงทุนสถาบัน เพราะตอนนี้นักลงทุนรายย่อยเริ่มหันมาโฟกัสหุ้นไทยมากขึ้น ดัชนีจึงประคองตัวปิดไปที่ระดับ 1,329.37 จุด บวกไป 6.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.02 หมื่นล้านบาทอย่างยอดเยี่ยม และยังมีลุ้นตั้งฐานเหนือระดับ 1,325 จุดแบบยาว ๆ อีกด้วยนะคะ

ว่ากันว่า การที่ดัชนีขึ้นมาถึงระดับนี้ ต้องขอบคุณการขึ้นของหุ้น DELTA เป็นลำดับแรกก่อนใครเพื่อน เพราะการยืนปิดที่ระดับ 90.75 บาท บวกไป 4.25 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.71 พันล้านบาท มีผลต่อดัชนีมากถึง 4 จุด และถ้าดูประเด็นเรื่องขยายโรงงานเป็นเรื่องหลัก ก็เชื่อได้ว่า กำไรของบริษัทจะเติบโต หรือมองในมุมของราคาหุ้นที่เปิดแก๊ปไว้ 105 บาท ก็เชื่อได้ว่า ราคาหุ้นน่าจะขึ้นไปถึงตรงนั้นจ้า

ประเด็นถัดมาที่อยากจะเม้าท์ถึงก็เป็นหุ้น EA หลังผ่านมรสุมชีวิตลูกใหญ่มาได้ ก็เริ่มตั้งต้นใหม่อีกครั้ง เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาได้เคลียร์ไปหมดแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงพิสูจน์ฝีมือแบบนี้ “โมนิก้า” เลยอยากบอกแค่ว่า “เรื่องหุ้น” กับ “เรื่องธุรกิจ” มันคนละเรื่อง และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 13.60 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.88 พันล้านบาท ก็มีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้วค่ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น  BBL ที่ขึ้นมาปิดในระดับ 137 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 583 ล้านบาท ก็มีมุมที่น่าสนใจในแง่แรงซื้อที่หนาแน่นขึ้น และถ้ามองแบงก์ที่แข็งแกร่งสุดในห้วงเวลานี้ ก็ต้องยกให้แบงก์ตราดอกบัวเพียงรายเดียว และด้วยความโดดเด่นที่เหนือกว่าคนอื่น จึงกลายเป็นเป้าหมายของการซื้อรอบใหม่ และได้ลุ้นกันยาว ๆ นะจะบอกให้

อีกรายที่น่าสนใจ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น JMART เพื่อชี้ให้เห็นการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.30 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 212 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่นักเล่นน่าเหลือบมองบ้างเช่นกัน! เพราะการขึ้นมาเที่ยวนี้มาพร้อมกับการคัมแบ็คทางธุรกิจเต็มตัว พ่วงด้วยบริษัทลูกที่ฟื้นตัวอีกครั้ง เดี๊ยนเลยมองจังหวะนี้เหมาะต่อการโหนกระแสพะย่ะค่ะ

เช่นเดียวกับแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาในหุ้น BANPU เป็นระลอกในช่วงที่ผ่านมา แต่วานนี้มีแรงซื้อเข้ามาเยอะ จึงดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.40 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.04 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบเดือนกว่าแบบนี้ “โมนิก้า” ก็มองเป็นอีกเกมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะแค่มองเรื่องผลงานที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุด ราคาหุ้นก็มีสิทธิ์ไปต่อสูงนะจ๊ะ

เมื่อมาในโทนพ้นจุดต่ำสุด “โมนิก้า” ก็ขอมองไปที่หุ้น BTS เพื่อชี้ให้เห็นการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.48 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 310 ล้านบาท เหมือนเป็นการส่งซิกให้รู้ว่า แรงซื้อเริ่มกลับมาอีกครั้ง หุ้นถึงขึ้นมายืนตระหง่านอีกครั้ง ส่วนจะไปได้ไกลขนาดไหน? หรือมีประเด็นที่ต้องกังวลอีกไหม? ก็ต้องดูกันต่อไปเรื่อย ๆ แต่ที่แน่ ๆ คือ รอบนี้เหมือนเอาจริงนะคะ

ส่วนหุ้นที่ “เอาจริง..เล่นจริง” เดี๊ยนขอมองไปที่หุ้น AWC หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.72 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 218 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบเดือนกว่าเช่นนี้..ช่างเหมาะต่อการไหลตามน้ำเสียเหลือเกิน เพราะทุกคนเคยเห็นราคาที่เล่นก่อนหน้านี้อยู่ระดับไหน? แถมเที่ยวนี้ไม่มีประเด็นอะไรต้องกังวลมากนัก เลยเปิดโอกาสให้ขาลุยได้เล่นสั้น ๆ กันอีกหลายยกพะย่ะค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน