สังคมข่าวหุ้น

ตลาดหุ้นไทยปิดบวกได้อีก 1 วัน แต่ยังไม่ผ่านแนวต้าน 1,330-1.335 จุด ส่วนมูลค่าการซื้อขาย 40,298 ล้านบาท วานนี้หุ้น DELTA มีมูลค่าการซื้อขายมากอันดับ 1 ด้วยวอลุ่มเทรด 2,718 ล้านบาท และราคาปิดวานนี้มีส่วนต่อการดันดัชนีประมาณ 4 จุด

ประเด็นที่น่าสนใจคือ จะเริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามายังหุ้นขนาดใหญ่ หรือบิ๊กแคปแบบมีนัยสำคัญ เช่น ADVANC GULF INTUCH BBL AOT GPSC CPALL หุ้นที่วิ่งขึ้นมา ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากแรง Cover Short ผสมกับกองทุนต่าง ๆ เริ่มทยอยเข้ามาสะสมหุ้นขนาดใหญ่เหล่านี้เพื่อเตรียมรับเม็ดเงินจากกองทุน TESG และกองทุนรวมวายุภักษ์ เพราะยังไงเงินจากสองกองทุนนี้จะมีเข้ามาแน่ ๆ จึงต้องดักสะสมไปเรื่อย ๆ ไว้ก่อน

กองทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล หรือ DIF ราคาหน่วยลงทุนไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างวานนี้ปิด 7.90 บาท รับเตรียมประกาศจ่ายเงินปันผลงวดไตรมาส 2/2567 ที่คาดว่าจะอยู่ประมาณ 0.21-0.2 บาทต่อหน่วยลงทุน ในช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ ส่วนราคาในระดับดังกล่าว ไม่ค่อยน่าเก็บแล้วละ เพราะขึ้นมาค่อนข้างมาก ในระยะสั้นก่อนแจ้งจ่ายเงินปันผล อาจจะมีการขายทำกำไรออกมาก่อนสัก 1 รอบ ถึงตอนนั้น ค่อยทยอยเข้ามาไปซื้อดีกว่า แนวรับ 7.80-7.75 บาท ส่วนแนวต้านคือ 7.95 บาท และผ่าน 8.00 บาท คงจะยาก เพราะต้นทุนของรายใหญ่ จะอยู่ระหว่าง 7.55-7.40 บาท หากขายทำกำไร จะได้มากกว่าปันผล แล้วพอขึ้น XD ราคาลง ค่อยเข้าไปเก็บใหม่

ส่วนอีกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานคือ 3BBIF ราคาค่อนข้างนิ่ง ๆ ที่ 5.45-5.50 บาท ในงวดไตรมาสสองนี้น่าจะจ่ายปันผลในรูปแบบ “เงินลดทุน” บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 0.17 บาทต่อหน่วยลงทุน น้อยกว่าครั้งไตรมาส 1/2567 ที่จ่าย 0.19 บาท และตลอดปี 2567 นี้ น่าจะจ่ายเงินลดทุนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะมีผลขาดทุนอยู่ และจะกลับมาจ่ายปันผลแบบปกติได้ในปี 2568 และพอปี 2569 จะมีสัญญาเช่าบางส่วนหมดอายุ คงต้องมาดูว่าจะกระทบกับราคาหน่วยลงทุนหรือเปล่า หรือว่า ราคา ณ ปัจจุบัน ลงมาตอบรับกับเรื่องนี้ไปแล้ว

บล.บียอนด์ BYD แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ด้วยการยืนยันว่า ยังคงให้บริการสินเชื่อ หรือ มาร์จิ้นกับลูกค้าภายใต้มาตรการในการระมัดระวังความเสี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับลูกค้าและผลประกอบการของบริษัทฯ คือ การปรับวงเงินมาร์จินให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการจริง และ สอดคล้องกับสถานะของลูกค้า การลดการกระจุกตัวในการปล่อยมาร์จิ้น การติดตามสถานะของลูกค้าโดยใกล้ชิดและติดตามให้มีการวางหลักประกันให้อยู่ในระดับปลอดภัย โดยที่ไม่ได้มีการลดหนี้แต่อย่างใด

CHAO บมจ.เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี เข้าสู่ช่วงวันที่ 2 ของการเข้าเทรด วานนี้ราคาปิดลบ 0.50 บาท หลังจากวันก่อนหน้าบวกขึ้นมา 0.50 บาท คำถามที่นักลงทุนต้องการทราบคือ นักลงทุนรายใหญ่ทั้ง “เซียนฮง” – สถาพร งามเรืองพงศ์, เสี่ยปู่ – สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล และ นเรศ งามอภิชน ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอ ยังคงถือหุ้นอยู่หรือไม่ หรือว่าขายออกไปแล้ว เรื่องนี้กว่าจะรับทราบกัน คงต้องรอปิดสมุดฯ โน่นแหละ หรือไม่ก็สังเกตจากราคาหุ้น น่าจะพอดูได้บ้าง ตอนนี้แนวรับ 14.80-14.60 บาท ยังไม่หลุด และกรอบราคายังคงอยู่ที่ 14.00-15.00 บาท หากราคาเด้งขึ้นมายืนเหนือ 15.00 บาท ได้ หรือราคาไม่หลุด 13.70 บาท เข้าใจว่านักลงทุนรายใหญ่น่าจะยังถืออยู่ หรือเล่นรอบในกรอบราคานี้อยู่ก็ได้ ต้องดูวอลุ่มเทรดประกอบด้วย

คาเฟอีน