พาราสาวะถี

อะไรเป็นปัจจัยทำให้ ทักษิณ ชินวัตร ไปพูดในงานบวชที่จังหวัดสุรินทร์ ว่า รัฐบาลหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะมีรูปธรรมมากขึ้น


อะไรเป็นปัจจัยทำให้ ทักษิณ ชินวัตร ไปพูดในงานบวชที่อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะมีรูปธรรมมากขึ้น เพราะชะตากรรมของ เศรษฐา ทวีสิน ที่ติดบ่วงถอดถอนจากคำร้องของ 40 สว.ต่อศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการชี้ขาดอยู่รอดปลอดภัย ทำให้สามารถเดินหน้าทำงานได้อย่างเต็มที่ จะมีการปรับ ครม.กันอีกกระทอก หรือสาเหตุมาจากอดีตนายกรัฐมนตรีจะพ้นโทษ ทำให้เคลื่อนไหวทางการเมืองได้อิสระ

ก่อนจะถึงตรงนั้น คงต้องดูโฉมหน้าของทีมงานประมุขสภาสูงว่า ประธานวุฒิสภาชื่อ พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานคนที่ 1 คือ มงคล สุระสัจจะ สอง สว.สายตรงสีน้ำเงินหรือไม่ ส่วนรองประธานอีกคนคงหนีไม่พ้นจากกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ หากให้สตรีมีบทบาทก็หนีไม่พ้น นันทนา นันทวโรภาส แต่ถ้าไม่ต้องอาศัยความเก๋าเพื่อสร้างสมดุลกับกลุ่ม สว.เสียงส่วนใหญ่เก้าอี้นี้อาจเป็นของ บุญส่ง น้อยโสภณ อดีต กกต.ที่บอกว่าพวกเดียวกันแต่ไม่ได้สังกัดกลุ่มพันธุ์ใหม่

เหตุที่ต้องรอดูองคาพยพของวุฒิสภานั้น ต้องไม่ลืมว่ากฎหมายสำคัญอันจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือสำคัญในการทำงานของรัฐบาล ต้องผ่านด่านของ สว.ที่ผ่านมาสภาลากตั้งมักจะทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ทำให้ออกอาวุธไม่ถนัดถนี่ เมื่อมาเป็นทีมงาน สว.สายสีน้ำเงินก็ย่อมที่จะทำให้ทางโล่ง งานสะดวก ตรงนี้นี่แหละคือสาระสำคัญว่าทำไมกุนซือใหญ่ของพรรคดังว่าจึงวางแผนยึดสภาสูง ไม่ใช่เพื่อให้ อนุทิน ชาญวีรกูล มีโอกาสก้าวไปเป็นผู้นำประเทศ แต่เป็นการเพิ่มพลังในการต่อรองมากกว่า

ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล แล้วยิ่งเป็นมนต์เขมรด้วยแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องของความขลัง จังหวะที่เคยติ๊ดชึ่ง เด้งเชือกได้ของเศรษฐาและเพื่อไทย ก็จะถูกต้อนเข้ามุมไม่ถึงกับเป็นมุมอับที่จะถูกน็อก แต่เป็นมุมที่ต้องจับมือกันเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ให้ลงตัว อย่างที่รู้ทั้งคู่มี “พลังวิเศษ” ที่หนุนนำทำให้มากอดคอกันตั้งรัฐบาลพลิกขั้ว ที่มองกันว่าจะมีการฉวยโอกาสไปจับมือกับอีกพรรคแล้วถีบหัวส่งพรรคแกนนำรัฐบาลปัจจุบันนั้น แค่ข่าวปล่อยของผู้ไม่หวังดี

ปัญหาใหญ่ของการเมืองภายใต้สิ่งที่ทิ้งไว้เป็นมรดกบาปของเผด็จการสืบทอดอำนาจหนีไม่พ้นกลไกต่าง ๆ ที่วางไว้เป็นกับดัก ทำให้ขยับตัวทำเรื่องใดก็ติดขัด หลังจากได้ สว.จัดตั้งแทนชุดลากตั้งแล้ว การเข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกฯ ของ วิษณุ เครืองาม เหมือนกับการได้ผู้ชี้แนวทางที่จะดำเนินการแก้ไขสิ่งที่เป็นอุปสรรค โดยรัฐบาลจะต้องเสนอให้ฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณา เมื่อเสียงในสภาผู้แทนราษฎรไม่มีปัญหา การมี สว.ที่เป็นพวกเดียวกัน ย่อมทำให้งานง่าย เพียงแต่ว่าทุกอย่างต้องมีต้นทุน

เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญสามารถเชื่อมต่อเครือข่าย จนทำให้ก้าวไปยึดสภาสูงได้แล้ว หากพรรคแกนนำรัฐบาลต้องการใช้บริการเพื่อให้กฎหมายสำคัญผ่าน จำเป็นต้องมีค่าดำเนินการ ของพรรค์นี้พวกชั่วโมงบินสูงรู้กันอยู่แล้วว่า ผลประโยชน์สำหรับนักการเมืองไม่ว่าจะนักเลือกตั้งอาชีพหรือไม่ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องจ่ายกันเป็นเงินสดเสมอไป อยู่ที่ข้อเสนอของแต่ละบุคคลหรือกลุ่มก๊วนที่สังกัด พวกมือถือสากที่ผ่านการลากตั้งของเผด็จการ คสช.อยู่กันมาจนพุงกางต่างรู้กันดี

ประเด็นร้อนที่เป็นผลสืบเนื่องจากการเลือก สว.เวลานี้หนีไม่พ้น ปมคุณสมบัติความเป็นด็อกเตอร์ของผู้ที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งอย่าง แพทย์หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย เพราะคนจำนวนไม่น้อยติดใจกับวุฒิการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตที่ได้รับมาของจริงหรือเก๊ เกิดการโยนเผือกร้อนกันไปทั่ว กกต.ก็จะอ้างไม่มีอำนาจ หน้าที่ไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะคุณสมบัติของผู้สมัครไม่ได้กำหนดเรื่องการศึกษาไว้ ซึ่งก็จะเป็นข้ออ้างเดียวกันกับทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หรือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

บทบาทการไขความกระจ่างตรงนี้คงหนีไม่พ้นกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมไปถึงหน่วยงานราชการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้วุฒิการศึกษาเป็นหลักฐานการันตีในการเข้าทำงาน เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ต้องไปตรวจสอบดูว่ามีการรับรองความถูกต้องของปริญญาบัตรจาก California University FCE. ว่ามีศักดิ์และสิทธิเทียบเท่าปริญญาบัตรที่ออกโดยมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศไทยทุกประการหรือไม่

ที่ไปไกลกว่านั้นคือ บรรดานักตรวจสอบผ่านโลกโซเซียลที่พบความผิดปกติ และการไม่มีอยู่จริงของมหาวิทยาลัยที่ สว.คนดังกล่าวกล่าวอ้าง ไม่ใช่เพียงแค่นักสืบไซเบอร์เท่านั้น ยูทูปเบอร์คนไทยในสหรัฐอเมริกาหลายเจ้าก็เข้าร่วมการสืบค้น และช่วยยืนยันว่าเอกสาร หลักฐานที่มีการยืนยันไม่น่าจะถูกต้อง พร้อมกับตั้งข้อสังเกต ชี้จุดพิรุธหลายประการ แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลโดยตรง แต่มันเกี่ยวพันกับความน่าเชื่อถือของคนที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ เศรษฐาอาจต้องสั่งให้กระทรวงที่มีหน้าที่ช่วยเป็นธุระจัดการให้ทุกอย่างเกิดความกระจ่างชัด

ปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษากับสภาไทยถือว่ามีมาทุกยุคทุกสมัย เพราะค่านิยมยึดติดกับหัวโขนต้องมีดีกรี มันจึงเป็นโอกาสของพวกที่หากินกับธุรกิจการศึกษา ผุดหลักสูตรมารองรับ เพื่อให้ผู้ทรงเกียรติทั้งหลายได้มีคำนำหน้านามว่าด็อกเตอร์ โดยไม่รู้ว่าแต่ละสาขาวิชาที่จบมานั้นมันเกี่ยวข้องและสำคัญกับภาระ หน้าที่ที่ตัวเองมีคือดูแลทุกข์สุขความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่ ทั้งที่ หากยึดเอาความสำเร็จเป็นตัวตั้งคนที่ไม่จบอะไรเลยหรือจบแค่ชั้นป.4 แต่มีรากฐานชีวิตที่มั่นคง มั่งคั่ง สร้างครอบครัวที่มีความสุข น่าจะเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลังได้เดินตาม ดีกว่าไปฟุ้งเฟ้อ เห่อเหิมกับค่านิยมที่ไร้สาระ

ขึ้นชื่อว่าการเมืองที่ตั้งอยู่บนความเชื่อ ความชื่นชอบส่วนตัว ต้องไม่ปล่อยให้ถูกครอบงำด้วยความมืดจากความเกลียดชัง หรือไม่ยอมรับอย่างหนึ่งอย่างใด แล้วนำไปสู่ความรุนแรง กรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถูกลอบยิงระหว่างปราศรัยหาเสียง แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุของการลงมือ เพราะผู้ที่ก่อเหตุถูกวิสามัญไปแล้ว แต่น่าจะเป็นบทเรียน ไม่ว่าประเทศที่เจริญแล้วหรือด้อยพัฒนา ถ้าผู้คนมีแต่ความเกลียดชัง ไม่รู้จักเปิดกว้างทางความคิด ปล่อยวางทางความเชื่อที่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกอยู่ฝ่ายเดียว สุดท้ายก็จะนำไปสู่การเลือกใช้วิธีที่รุนแรง ป่าเถื่อน ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในยุคที่โลกเปลี่ยนไปไกลแล้ว

อรชุน

Back to top button