SET Index-ราคาหุ้นไทย สะท้อนกำไรหด-ธรรมาภิบาลถดถอย (จบ)

การที่รัฐบาลเกาหลี ประกาศยกเลิก และห้ามทำการชอร์ตเซลไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำให้หุ้น Ecopro ตัวนี้ บวกกลับขึ้นไปได้เลย


การที่รัฐบาลเกาหลี ประกาศยกเลิก และห้ามทำการชอร์ตเซลไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำให้หุ้น Ecopro ตัวนี้ บวกกลับขึ้นไปได้เลย

สิ่งที่กำลังจะบอกก็คือ การที่หุ้นตัวนี้ขึ้นไปทำนิวไฮตอนนั้น คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธเลยว่า หนึ่งในนั้น คือ “การเก็งกำไร”

แม้อีกส่วนหนึ่ง จะมองว่า เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย fundamental ของธุรกิจแบตเตอรี่ ที่ทุกคนต่างชื่นชอบและประเมินกันว่า จะเป็นธุรกิจอนาคต

แต่พอวันเวลาผ่านไป วันนี้เราก็เห็นกันแล้วว่าหุ้นแบตเตอรี่ทั่วโลก ก็ปรับตัวลดลง และหุ้นหลายตัวในโลกนี้ก็ลงตาม แม้แต่หุ้นแบตเตอรี่อันดับ 1 ของไทยอย่าง หุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ก็ไม่รอดพ้นจากวันเวลาที่ผ่านไปเช่นกัน

การที่ทางการเกาหลี ไม่อนุญาตให้ทำชอร์ตเซล ราคาหุ้นทุกตัวก็ไม่ตอบรับเหมือนหุ้นตัวอื่น ๆ

กลับมายังหุ้นที่บวกเยอะ ๆ ของตลาดหุ้นเกาหลี ก็จะมีที่บวกเด่น ๆ คือ หุ้น Hyundai electric, หุ้น Hanmi semiconductor Hanwah Aerospace, หุ้น SK Hynix, หุ้น Korea Gas พวกนี้ล้วนแต่มีพื้นฐาน และสตอรี่ที่ดีของตัวเองรองรับอยู่

ในยามที่ตลาดหุ้นเกาหลี ห้ามชอร์ตเซล แต่มีหุ้นลงเกือบ 100 ตัวจาก 200 ตัวมันก็เป็นการบ่งบอกได้ว่าการไม่มีชอร์ตเซลไม่ได้แปลว่าหุ้นจะขึ้นหมดทุกตัว

กลับมาที่ตลาดหุ้นไทย ตราบใดที่กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ตลาดยังไม่เกิน 90 บาท ก็อย่าหวังที่จะเห็น SET INDEX ปรับตัวขึ้นไปปี’66 EPS 84 บาท

แถมยังมีผู้บริหารโกงกันภายใน ยังมีการแต่งบัญชี การโกหกเรื่องรายได้ที่ตั้งเป้าไว้ให้นักลงทุนเชื่อ และล่าสุด เอาหุ้นไปจำนำ เพื่อเอาวงเงินไปสร้างดีมานด์เทียมซื้อหุ้นตนเอง จนพังเป็นสโนว์บอล

แถมยังมีรัฐบาลที่ยังเล่นการเมืองกันไม่หยุดแบบนี้ ก็คงไม่มีเหตุผลใดที่นักลงทุนต่างชาติ จะต้องมีเหตุผลในการซื้อหุ้นไทย

ขณะที่ local fund เองก็ไม่ได้มีเงินเข้ามามากนัก นักลงทุนรายย่อยที่ใส่เงินเข้ามา ก็หมดศรัทธา แถมคนรุ่นใหม่ ก็ชวนกันเอาเงินไปลงทุนต่างประเทศ แล้วอะไรล่ะที่จะเป็นตัวดันหุ้นไทยให้ขึ้น

หลายคนก็มองว่าหุ้นเราตกมาเยอะ ถูกแล้ว แต่ถ้าเรามาดูสถานการณ์ของประเทศไม่ว่าจะเป็นหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ถือเป็นปัญหาของกลุ่มคนที่ถือเป็นฐานโครงสร้างที่ใหญ่

การที่วันนี้ลดดอกเบี้ยแล้วจะเอาไปเปรียบเทียบกับปี 2011 แล้วบอกว่าทุกอย่างจะดีขึ้นมันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกต้องเสียทีเดียว

เพราะว่าปี 2011-2012 หนี้ครัวเรือนเราน้อยกว่าปัจจุบันมาก มันเลยกลายเป็นว่าเราสามารถโตด้วย consumption

วันนี้ถ้าเราไปดูหลายบริษัทชั้นนำของตลาดหุ้นไทย ที่ไปซื้อของมาช่วงโควิด พอมาวันนี้ไม่สามารถทำกำไรได้แม้แต่ตัวเดียว

ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มปตท. กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ หรือ กลุ่มอินโดรามา ที่ซื้อกิจการเยอะแยะไปหมด สุดท้ายต้องมานั่งตัดด้อยค่า แล้วแบบนี้หุ้นไทยจะขึ้นได้อย่างไร?

กลายเป็นว่า พอหุ้นไม่ขึ้นก็หาตัวโทษ หาแพะ ซึ่งในความเป็นจริงโครงสร้างของตลาดหุ้นทั่วโลก ต้องอาศัย พวก Algo, HFT, Short Sale มาใช้เป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นของเขา

ไฉนเลยที่ตลาดหุ้น US, India, Japan ที่ปรับตัวขึ้น ก็มี Algo, HFT, Short sale ใช้ในปริมาณที่มากกว่าตลาดหุ้นไทยด้วยซ้ำ

โดยเฉพาะ ตลาดหุ้นอินเดีย เป็นหนึ่งในตลาด ที่มี การเล่น 0DTE option คือ  options ที่หมดอายุภายในวันเดียว เป็นอันดับต้นของโลกไปแล้ว

อีกทั้งยัง สามารถที่จะทำชอร์ตเซลได้อย่างเสรี และเป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในโลกด้วย

ถ้าห้ามชอร์ตเซล แล้วแบบนี้เราจะมี Block Trade เราจะมีฟิวเจอร์ไว้ทำไม..?

ถ้าอย่างนั้นก็ยกเลิกไปให้หมดแน่นอนว่าเราอาจจะเสียในแง่ของตัว liquidity แต่ถ้าเกิดว่าตลาดยังลงต่อเนื่อง liquidity ก็หายไปอีก แล้วจากนี้ไปเราจะหาแพะตัวไหนมาโทษกันอีกดี

ธิติ ภัทรยลรดี (แทน)

Back to top button