พยายามตั้งลำ

หลังจากตลาดหุ้นไทยเจอมรสุมความเชื่อมั่นเล่นงานเป็นระลอก วานนี้ก็ได้เวลากลับสู่พื้นฐานความเป็นจริงเสียที ซึ่งเห็นได้จากแรงซื้อที่ไหลกลับ


หลังจากตลาดหุ้นไทยเจอมรสุมความเชื่อมั่นเล่นงานเป็นระลอก วานนี้ก็ได้เวลากลับสู่พื้นฐานความเป็นจริงเสียที ซึ่งเห็นได้จากแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาในหุ้นใหญ่เป็นช่วง ๆ จนช่วยประคับประคองไม่ให้ดัชนีลงลึกแม้ปิดที่ระดับ 1,319.79 จุด ลบไป 1.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.65 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจเป็นระดับที่ไม่สวยหรูเหมือนก่อนหน้านี้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า ตลาดหุ้นยังมีหุ้นสตอรี่สวย ๆ ให้นักเล่นได้ชื่นใจอยู่บ้างนะคะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เริ่มมีหวังขึ้นมาอีกครั้งว่า การที่ดัชนียืนเหนือระดับ 1,320 จุดได้ร่วมสัปดาห์ น่าจะเป็นแรงส่งให้ดัชนีไต่เพดานขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิมได้ไม่ยาก และเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาเล่นสั้น ๆ ตามน้ำอีกรอบ ผนวกกับมีแรงซื้อเข้ามาประปรายในหุ้นหลายตัว เดี๊ยนเลยเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะมีเรื่องแย่ ๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว (หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ)..อิอิอิ

ฮือฮาสุด ๆ คงเป็นดีลประวัติศาสตร์ของยักษ์ใหญ่ GULF สวอปหุ้นกับ INTUCH เพื่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาลุยธุรกิจแห่งอนาคตแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องดีที่เข้ามาถูกเวลาพอ เพราะทำให้ตลาดหุ้นมีข่าวดีเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นอีกครั้ง และที่เด็ดสุดของการควบรวมกันครั้งนี้ก็คือ ปันผลพิเศษเข้ามาเป็นแรงเสริม วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นของรายแรกขึ้นมายืนอยู่ที่ 45 บาท บวกไป บาท หรือขึ้นไป 6.51% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.06 พันล้านบาทไงล่ะคะ

เมื่อตลาดหุ้นเริ่มเฟ้นหาหุ้นสตอรี่สวย แนวโน้มสดใสเป็นที่ตั้ง “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้น DELTA ขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 94.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 1.34% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.61 พันล้านบาท เพราะเมื่อมองไปรอบตลาดหุ้น ก็เหลือหุ้นใหญ่ที่มีสตอรี่สวยไม่กี่ตัว แถมยังมีเรื่องขยายโรงงานเข้ามาเป็นแบ็กอัพ เดี๊ยนเลยไม่ติดใจการขึ้นของราคาหุ้นในเที่ยวนี้พะย่ะค่ะ

แปลกประหลาดสุดคงเป็นในรายของ KBANK หลังพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 126.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.20 พันล้านบาท เพราะเมื่อดูจากสถานการณ์ของแบงก์ที่ซวนเซกันทั้งนั้น ยิ่งทำให้เดี๊ยนหาเหตุผลของการเด้งขึ้นเที่ยวนี้ไม่ถูกจริง ๆ จึงขออนุมานการขึ้นเที่ยวนี้เป็นแค่การรีบาวด์ธรรมดา ส่วนใครมีเหตุผลที่อธิบายได้ดีกว่านี้ ก็ช่วยบอกเดี๊ยนด้วยนะออเจ้า

เช่นเดียวกับการทำโลว์เรื่อย ๆ ของ BTS จนมีเสียงร่ำลือเกี่ยวกับการต่อสัญญาสายสีเขียวท่าจะเป็นหมัน จึงทำให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ไม่กล้าเข้ามารับหุ้น เพราะมันเหมือนการเข้าไปรับของร้อน ซึ่งมีโอกาสมือไม้พองได้ ส่งผลให้การลงมายืนอยู่ที่ระดับ 4.06 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 1.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 727 ล้านบาท อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดของเที่ยวนี้ก็เป็นไปได้ จึงควรอยู่ห่าง ๆ ไว้ก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ

เม้าท์ถึงเรื่องของร้อนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องเหลือบมองไปที่หุ้น BYD ขึ้นมาทันที เพราะการพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.29 บาท บวกไป 0.23 บาท หรือขึ้นไป 21.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 451 ล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า มีคนพร้อมที่จะลุยไฟเป็นจำนวนมาก และเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลเสียด้วย จึงไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มากความนะออเจ้า

เหมือนกับในรายของหุ้นนางงาม MGI ก็ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เหมือนจะดี แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ทรุดลงมาเรื่อย ๆ ผนวกกับบรรดากองเชียร์ที่เคยออกตัวแรงก็หายหัวไปหมด “โมนิก้า” เลยไม่รู้ทิศทางของธุรกิจจะไปต่ออย่างไร? และไม่รู้ราคาเหมาะควรอยู่ตรงไหน? จึงรบกวนพวกที่ชอบคอมเมนต์ออกมาให้ความเห็นสักหน่อย หลังราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 16.50 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.48% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30 ล้านบาทแบบเหงา ๆ น่ะซี

ตบท้ายกันที่หุ้น NETBAY เพื่อชี้ให้เห็นการทรุดตัวลงอย่างรุนแรง 2 วันติด มันคือภาพที่น่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน เพราะก่อนหน้านี้ราคาหุ้นก็ไหลลงมาเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นจุดรีบาวด์อยู่ตรงไหน? ก็เป็นประเด็นที่ทำให้เดี๊ยนหนักใจเช่นกัน จึงอยากให้แฟนคลับถอยห่างจากหุ้นตัวนี้ไปก่อน เพราะการลงมาปิดที่ระดับ 13.90 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 12.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาท มันต้องมีซัมติงบางอย่างแน่ ๆ พะย่ะค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button