GULF ก้าวสู่หุ้น Proxy ของตลาดหุ้นไทย (1)

การประกาศควบรวมกิจการ (Amalgamation) ระหว่าง GULF กับ INTUCH โดยการสวอปหุ้น เพื่อจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ (NewCo) ที่ยังไม่ประกาศชื่อ


การประกาศควบรวมกิจการ (Amalgamation) ระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH โดยการสวอปหุ้น เพื่อจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ (NewCo) ที่ยังไม่ประกาศชื่อนั้น

ถือว่าเป็นการทำดีล ที่ฉลาดมาก เพราะว่า “ไม่ต้องใช้เงินสักบาท” แต่ GULF สามารถได้สิทธิการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC จำนวน 40% จากเดิมถือผ่าน INTUCH จะได้แค่ 20% เท่านั้นและใหญ่กว่าทาง  SINGTEL STRATEGIC INVESTMENT PTE LTD. ที่ถือหุ้นอยู่ 23.31% อีกด้วย

อีกจุดหนึ่งที่สำคัญมากไม่แพ้กัน ก็คือ การควบรวมของ GULF กับ INTUCH จะไม่มีการ consolidate งบใน ADVANC เข้ามา จะรับเพียงแค่ กำไรจากผลประกอบการ และ เงินปันผล

ขณะที่หนี้สินที่อยู่ใน ADVANC จำนวน 2 แสนล้านบาท ก็ยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ถูกรวมเข้ามาใน NewCo ภายหลังการควบรวม

เหล่านี้ ทำให้ NewCo สามารถที่จะมี valuation ที่ดีขึ้น จากความมีเสถียรภาพในการรับรู้กำไรจากธุรกิจของ ADVANC ที่ไม่มีความผันผวนเลยมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แม้แต่ช่วงโควิด-19 ระบาดหนักก็ตาม 

นอกเหนือจากกำไร และเงินสดที่จะเข้ามาทุกปีใน NewCo จากการที่ INTUCH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ADVANC 

การทำ amalgamate กับ INTUCH ซึ่งเป็นบริษัทที่ Net Cash ยังสามารถทำให้ฐานทุน NewCo ใหญ่ขึ้น และสามารถกู้เพิ่มได้อีกหลายแสนล้านบาท  เพื่อจะเอาไปขยายธุรกิจให้เติบโตได้อีกในอนาคต

และนี่คือ..ความฉลาดของการทำดีล..!?

ปัจจุบันเราอยู่ในโลกของเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจากอดีต หรือแม้แต่ธุรกิจในยุคนี้ เป็นจำนวนมากถูก disrupt ทั้งทางตรงและทางอ้อม

การปรับธุรกิจให้รอดพ้นของ GULF ตรงนี้จะแตกต่างจากนักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่เลือกที่จะเข้าหาธุรกิจที่มีการเติบโตแบบหวือหวา แต่มีความเสี่ยงซ่อนอยู่ 

อาทิ การเลือกไปอยู่ในสนามของธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นความเสี่ยงอย่างมาก ขนาดผู้บุกเบิกของโลก อย่าง อีลอน มัสก์ ยังถูกสินค้าตลาดจีน disrupt อย่างรวดเร็ว

ความมั่นคง บวกกับความมีเสถียรภาพ ในการทำธุรกิจของ ADVANC ถือเป็นการเติบโตแบบยั่งยืน แม้จะไม่หวือหวา แต่ทำให้กำไรมีเสถียรภาพ ไม่มีการปรับขึ้น หรือลงแบบมีนัยสำคัญเหมือนธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ 

อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าในทุก เซกเมนต์ที่ GULF เข้าไป คือ มีจุดยืนที่สังเกตง่ายมาก

นี่คือ..การดิ้นรนให้รอดจากการถูก disrupt..!!

ธุรกิจอนาคตที่ว่า นอกเหนือธุรกิจดิจิทัล ในตัว ADVANC จะมีดังนี้ กล่าวคือ บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด (GE) เป็นบริษัทย่อยของกลุ่มที่มุ่งเน้นกำรลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้น ฐานดิจิทัล และให้บริการด้านดิจิทัล รวมถึงดิจิทัลโซลูชั่นต่าง ๆ ให้กับลูกค้าหลากหลายประเภท 

ปัจจุบัน GE มีการลงทุนในหลายธุรกิจ ได้แก่

-ธุรกิจโทรคมนาคมผ่านดาวเทียม ภายใต้ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM หนึ่งในผู้นำในการให้บริการดาวเทียมชั้นนำของเอเชีย

-ธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้ บริษัท ไบแนนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Binance TH)

-ธุรกิจศูนย์ข้อมูล ภายใต้ บริษัท จีเอสเอ ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด (GSA)

-ธุรกิจคลาวด์ ผ่านความร่วมมือกับ Google Cloud

ทั้งหมดนี้ เราต้องพึ่งพาการใช้ไฟฟ้าในการทำข้อมูล  Data Center ความต้องการใช้ Data มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งผ่าน การใช้โทรศัพท์มือถือ โทรคมนาคม อินเทอร์เน็ต

เรียกว่า..ขยายการเติบโตบนธุรกิจที่มีเสถียรภาพทางด้านกำไร-เงินปันผล..!! (มีต่อฉบับหน้า)

ธิติ ภัทรยลรดี (แทน)

Back to top button