พาราสาวะถี

เมื่อทุกอย่างถูกล็อกไว้หมดแล้วจึงไม่มีอะไรพลิกโผ มงคล สุระสัจจะ ได้รับเสียงโหวต 159 คะแนนให้เป็นประธานวุฒิสภา ส่วนสองคู่แข่ง นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ และ นันทนา นันทวโรภาส ได้ 19 เสียงเท่ากัน เช่นเดียวกับเก้าอี้รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และ 2 ตกเป็นของ พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ กับ บุญส่ง น้อยโสภณ ตามดีลที่มีการปิดกันไว้ก่อนหน้า เป็นอันว่าผ่านด่านแรก สว.สายสีน้ำเงินก็แสดงพลังให้เห็นแล้วว่าของจริง มาตามนัด

หลังจากนี้ไปวัดพลังกันอีกรอบกับเก้าอี้ประธานกรรมาธิการสามัญคณะต่าง ๆ ซึ่งว่ากันว่า ในส่วนที่เป็นคณะกรรมาธิการที่ดูแลกระทรวงสำคัญในมือของภูมิใจไทยจะเป็น สว.สายสีน้ำเงินทั้งหมด เช่นเดียวกับคณะกรรมาธิการเกรดเอ หลังกระชับอำนาจสภาสูงเบ่งบารมี โชว์กล้ามของอาจารย์ใหญ่บุรีรัมย์แล้ว ทำให้เห็นว่าความสำคัญทางการเมืองปัจจุบันของพรรคภูมิใจไทยนั้นมีมากขนาดไหน ให้ดูภาพตีกอล์ฟ ร้องเพลงหวานชื่นของ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว กับ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่รีสอร์ตหรูกลางเขาใหญ่ของเสี่ยหนูเอา

บทเพลงที่ขับขาน “When you say nothing at all” เมื่อถอดความหมายดูแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับเสียงเพลง “รักเธอนิรันดร์” ที่เสียหนูขับกล่อมให้ แพทองธาร ชินวัตร ฟังในวันดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคพลังประชารัฐเป็นเจ้าภาพเลี้ยงที่บ้านปาร์คนายเลิศ นั่นย่อมทำให้มองเห็นอนาคตทางการเมืองว่าด้วยเรื่องการจับมือ สร้างความแข็งแกร่งกันเพื่อพร้อมสู้การเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าเพื่อไทยที่ต้องการคัมแบ็กมาครองอันดับ 1 ไม่ว่าภูมิใจไทยที่ต้องการให้คะแนนเสียงเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม 

แม้จะมีฐานเสียงที่แข่งขันกันสูงในพื้นที่ภาคอีสาน แต่เมื่อวัดกันด้วยความนิยม และเนื้องานที่ใช้มัดใจแล้ว ยังพอยอมรับกันได้ว่าไม่ถึงกับห้ำหั่นเอาเป็นเอาตาย เพราะที่มั่นอีกแห่งที่สำคัญของพรรคเสี่ยหนูยังมีที่ภาคใต้ เป้าหมายใหญ่ที่ถือเป็นพันธกิจร่วมจากดีลทำให้เกิดรัฐบาลพลิกขั้วคือ ต้องช่วยกันทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พรรคก้าวไกลก้าวไปสู่อำนาจการบริหารประเทศได้ จึงมีคำถามตามมาว่าแล้วหากวันที่ 7 สิงหาคมนี้ พรรคสีส้มถูกยุบ การจับมือกันของสองพรรคร่วมยังจะเหนียวแน่นเหมือนเดิมหรือไม่

มีความพยายามของเผด็จการสืบทอดอำนาจหรือกลุ่มอำนาจเก่าที่ยังไม่ยอมแพ้ พยายามจะสะสมกำลังพล ใช้บ้านในป่าเป็นที่ซ่องสุม แน่นอนว่าการทิ้งพรรคนายใหญ่แล้วหันหัวเรือไปพึ่งบารมีพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. ของ เฉลิม อยู่บำรุง พร้อมลูกวันและหลานกาโม่ ถือเป็นจิ๊กซอว์หนึ่งที่ต้องการสะท้อนให้นายใหญ่เห็นว่าหากเล่นเกมไม่แฟร์ หรือสร้างบาดแผลให้เกิดขึ้นกับคนที่เคยเป็นมิตรกันมาก่อน ยังมีคนที่พร้อมจะเขย่าบัลลังก์ของพรรคเพื่อไทยอยู่ตลอดเวลา

สำหรับนายใหญ่แล้วไม่ได้ให้ราคากับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น เพราะเป็นผู้จุดประเด็นเองว่าการเมืองที่วุ่นวายอยู่เวลานี้เพราะมีคนบ้านในป่าอยู่เบื้องหลัง รู้กันอยู่ว่า ไม่ได้มีเพียงพ่อลูกตระกูลอยู่บำรุงเท่านั้นที่ไปรวมหัวเพื่อประชดและหวังเอาคืนทางการเมือง แต่ยังเป็นศูนย์รวมของพวกที่เคยได้รับผลประโยชน์จากผู้ที่ถูกเรียกว่าคนแดนไกลมาก่อน แต่หลังการยึดอำนาจพฤษภาคม 2557 คนเหล่านี้ก็ไปทำมาหากินกันเป็นล่ำเป็นสันกับผู้มีบารมี ณ เวลานั้น เรื่องแบบนี้รู้กันอยู่แล้วในแวดวง

ดังนั้น ทุกตัวละครที่ถูกเปิดชื่อมา ถามว่าจะสร้างปัญหาให้กับนายใหญ่และพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เปล่าเลย มิหนำซ้ำ ยังจะเป็นเรื่องดีอีกต่างหากที่สามารถแยกมิตรและศัตรูได้ชัดเจนมากขึ้น จากการพบกันที่รีสอร์ตหรูของอนุทินก็เกิดผลทันตา เมื่อก่อนการประชุม ครม.วันอังคารที่ผ่านมา เศรษฐา ทวีสิน เรียกเสี่ยหนู พร้อม สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้าพบ เพื่อหาข้อยุติปัญหานำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด ซึ่งนายกฯ เคาะว่าอยากให้ออกเป็นพระราชบัญญัติเพื่อควบคุมการบังคับใช้กัญชา ให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ วิจัยและเศรษฐกิจเท่านั้น 

จะได้ไม่ต้องมาขัดแย้งกันว่าควรหรือไม่ควรที่จะนำกลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติด เพราะเรื่องนี้ทำไปทำมาฝ่ายภูมิใจไทยดูเหมือนจะกุมความได้เปรียบ เพราะ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรัฐมนตรีพลังงานในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นประธาน ป.ป.ส. ก็มองไปทำนองเดียวกันว่า เมื่อนำออกจากบัญชียาเสพติดไปแล้ว การจะกลับเข้ามาอีกต้องมีคำอธิบาย สมัยนั้นคนที่ทำเรื่องนี้ก็เคยมีมติเห็นชอบและเป็นมติเอกฉันท์ มันจึงต้องหาทางลงในลักษณะบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น

อย่างไรก็ตาม การพบกันของบิ๊กแม้วกับเสี่ยหนูที่รีสอร์ตหรู จะมีปฏิญญาโคราชเกิดขึ้นหรือไม่ไม่รู้ ที่แน่ ๆ การหารือกันนั้น มองข้ามช็อตเรื่องยุบก้าวไกลไปถึงการตัดสินคดีเศรษฐาจะหลุดจากเก้าอี้หรือไม่แล้ว หากไม่หลุด การทำงานก็ยิ่งจะเห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่หากนายกฯ ไม่ได้ไปต่อ แล้วต้องหาคนใหม่ แคนดิเดตที่มีอยู่ของเพื่อไทยย่อมหนีไม่พ้นอุ๊งอิ๊ง ขณะที่อนุทินก็มีชื่ออยู่เช่นกัน จึงต้องไปดูผลของการยุบพรรคว่าออกมาอย่างไร

ถ้ายุบ ต้องดูการกวาดต้อนผึ้งแตกรังของสองพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทยและพลังประชารัฐ เหมือนข่าวที่ปรากฏมาก่อนหน้า คนบ้านในป่าพยายามยื่นข้อเสนอที่เร้าใจต่อบรรดานักเลือกตั้งของพรรคสีส้มเพื่อล่อใจให้เข้าคอกหากพรรคมีอันเป็นไป แต่เรื่องใจถึงพึ่งได้เสี่ยหนูก็ไม่ได้น้อยหน้าเหมือนกัน การนับตัวเลข ณ เวลานั้น จะเป็นตัวชี้วัดว่า รัฐบาลยังจะเป็นพรรคร่วมชุดเดิมแล้วแกนนำเดิม หรือเปลี่ยนแกนนำ ไม่ว่าจะเปลี่ยนยังไง โอกาสก็ยังไปไม่ถึงคนบ้านในป่าที่อยากเป็นอยู่ดี ว่ากันว่า คงต้องกินแห้วไปจนกว่าจะวางมือ

เรียกว่าเหิมเกริม หรือเห็นช่องโหว่ทางกฎหมายอย่างไรไม่ทราบ จากกรณีการปิดประกาศป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บริเวณสี่แยกห้วยขวาง กลางกรุงเทพฯ ประกาศขายพาสปอร์ต และรับทำสัญชาติบางประเทศ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพากันเต้นเป็นแถว ไม่เว้นแม้แต่เศรษฐาต้องลงพื้นที่ สน.ห้วยขวางสั่งการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ย่านดังกล่าวมีนักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่มาทำมาหากินกันจำนวนมาก ประเภทถูกกฎหมายไม่ว่ากัน แต่พวกจีนเทา ธุรกิจมืด ต้องตรวจสอบเข้มข้น และเอาจริงเอาจัง ไม่ทำกันแบบไฟไหม้ฟาง

อรชุน