GULF ก้าวสู่หุ้น Proxy ของตลาดหุ้นไทย (จบ)

สิ่งที่เรียกได้ว่า เป็นข้อแตกต่างระหว่างกลุ่ม GULF เทียบกับกลุ่มอื่นที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าเหมือนกัน จะสังเกตพบว่า กลุ่มนี้จะไม่เลือกธุรกิจที่มีการเติบโตที่หวือหวาเลย


สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นข้อแตกต่างระหว่างกลุ่ม GULF เทียบกับกลุ่มอื่นที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าเหมือนกัน จะสังเกตพบว่า กลุ่มนี้จะไม่เลือกธุรกิจที่มีการเติบโตที่หวือหวาเลย และเลือกการเติบโตในแบบที่มีความมั่นคงตลอด อย่างธุรกิจสาธารณูปโภคที่มีความจำเป็นต้องใช้ทุกครัวเรือน

โดยเน้นลงทุนแบบระยะยาว มีกระแสเงินสดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  อย่างที่เขียนอธิบายไปก่อนหน้านี้ 

ทุกธุรกิจที่ GULF มุ่งไป ส่วนใหญ่ล้วนแล้วเป็นธุรกิจดีมีการเติบโตอย่างชัดเจน แม้ไม่ได้ก้าวกระโดด แต่โตต่อเนื่องทุกปี แถมมีโอกาสในการเติบโตที่ค่อนข้างเด่นชัด

ยิ่งภายหลังที่การควบรวมและตั้งบริษัทใหม่ เสร็จเรียบร้อย เราจะได้เห็น step ต่อไปของการขยายธุรกิจของ NewCo ที่มีเป้าหมายไปสู่ธุรกิจอนาคต โดยใช้ฐานทุนที่ขยายขึ้น จน D/E ลดลงเหลือ 0.9 เท่า จากเดิม 2-3 เท่า

มีความสามารถในการขยายการลงทุนได้อีกหลายแสนล้านบาท โดยภาพที่เกิดขึ้น เราจะเห็นจาก NewCo บริษัทนี้ ไปก่อร่างสร้างตัว เพื่อนำจิ๊กซอว์มาต่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบเพิ่มมากขึ้น

ถือว่า…ลงทุนเกี่ยวข้องกับธุรกิจอนาคต.!!

การก้าวสู่การเป็นหุ้นตัวแทน (Proxy) ประเทศไทย หรืออยู่ในเรดาร์การลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก

คุณสมบัติของการที่จะขึ้นเป็นหุ้น Proxy ของประเทศได้ มีขอบเขต ดังนี้

1.ดำเนินธุรกิจที่สามารถแข่งขันแบบเวทีโลกได้

2.ดำเนินธุรกิจที่ยังสามารถเป็นที่ต้องการได้อีก 10-20 ปีข้างหน้า

3.Scale up สามารถขยายจากเดิมที่มีอยู่ให้ใหญ่ขึ้นได้อีก รวมถึงกำไรที่จะเพิ่มขึ้นตามมา

4.Expansion มีแนวโน้มจะเพิ่มกำไรที่ต่อยอด ความสำเร็จจากธุรกิจเดิม ไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น และสร้างผลตอบแทน หรือมูลค่าเพิ่มในระยะยาวได้

ในอดีตหุ้นกลุ่มปตท. จะเป็นหุ้นตัวแทนของประเทศไทย แต่ปัจจุบันปตท. ถูกรุมเร้าด้วยการเมือง ที่เล่นเลยเถิดมากขึ้นทุกวัน จนต่างชาติเอือมระอา และเบื่อกับหุ้น proxy ที่ถูกการเมืองครอบงำ แถมสกัดไม่ให้เติบโต

แม้ปตท. จะเป็นบริษัทมหาชน ที่มีรัฐบาลถือหุ้นใหญ่อยู่ แต่กลับเป็นบริษัทที่ถูกฝั่งการเมืองรัฐบาล เอาเปรียบมากที่สุด มากถึงขนาดสามารถบังคับให้ช่วยเหลือ และอุดหนุนในรูปแบบไหนก็ได้

รวมถึงมีการบังคับให้ช่วยเหลือเป็นระยะ ๆ เรื่อยมา อีกทั้งภายในตัวองค์กรเอง หากมีปัญหาที่คลางแคลงใจ ก็ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อกังขาบางอย่างให้สิ้นข้อสงสัยแบบไม่คาดสายตาประชาชนได้  

ช่วงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง มีสาเหตุมาจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก 

ความเชื่อมั่น และศรัทธาในผลประกอบการของหุ้นใหญ่รายตัวของต่างชาติ “ลดน้อยลง” จนทำให้มีคนจำนวนหนึ่ง ไปบิดเบือนข้อมูลว่า สาเหตุที่หุ้นไทยลง เกิดจาก Naked Short หรือ Short sell 

ทั้งที่ความจริงแล้ว มันเกิดจากการ Long Sell ของต่างชาติ ที่เห็นอนาคตของหุ้นที่ตนถืออยู่จะถูก disrupt หรือไม่มีการเติบโตแล้วมากกว่า

การเกิดขึ้นของ NewCo ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจจะทำให้เงินลงทุนที่เคยถูก Long Sell เปลี่ยนใจหันกลับมา Net buy หุ้นไทยก็เป็นได้

ฉะนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติ ต้องถือหุ้น PTT ในเมื่ออนาคตตลาดหุ้นไทยกำลังจะมีหุ้น NewCo มาแทน

แม้ในวันนี้หุ้น PTT อาจจะมีเงินปันผลที่ดีที่สุด  แต่ในไม่ช้าหุ้น NewCo เองอาจจะกลายเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลไม่แพ้หุ้น PTT แต่ GULF ยืนอยู่บนเงื่อนไขที่มีการเติบโตที่ชัดเจนจากธุรกิจที่ทำอยู่

แถมไม่ต้องมีความเสี่ยงเรื่องรัฐบาลจะเข้ามาขอเงิน หรือความช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่กลายเป็นบริษัทมหาชนไปนานแล้ว

NewCo ทำให้ “ธุรกิจโรงไฟฟ้า” เป็นส่วนหนึ่ง ของธุรกิจอนาคตไปเรียบร้อยแล้ว เรายังไม่นับรวม “Internet” ที่ใช้คุมระบบ AI, Data Center ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ใน NewCo

ถ้ามีตัวเลือก จะต้องลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ที่ครอบคลุมทุกอย่างที่เป็นอนาคต และค่อย ๆ โตไปเรื่อย ๆ ไม่หวือหวา คุณจะเลือกลงทุนระยะยาวกับบริษัทใด ระหว่าง ธุรกิจใหม่

บริษัทใหม่ที่ว่านี้..กำลังก้าวสู่บัลลังก์หุ้น Proxy ของไทยนั่นเอง..!!

ธิติ ภัทรยลรดี (แทน)

Back to top button