SPA คลายเส้นธุรกิจ.!
ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายโควิด ธุรกิจสปาซึ่งอิงการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในธุรกิจที่วิกฤตมากสุด..!! เห็นได้ชัดจากการประกาศปิดสาขาของ SPA
ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายโควิด ธุรกิจสปาซึ่งอิงการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในธุรกิจที่วิกฤตมากสุด..!!
เห็นได้ชัดจากการประกาศปิดสาขาของบริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ซึ่งทำธุรกิจด้านสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสปา โดยธุรกิจสปามี 5 แบรนด์หลัก ได้แก่ Let’s Relax เน้นจับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ตามโรงแรม RarinJinda Wellness Spa และบ้านสวนมาสสาจ จับกลุ่มลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วไป Stretch me by Let’s Relax เป็นสตูดิโอยืดกล้ามเนื้อ และ Dr.Spiller Pure Skin Care Solutions เป็นสถานบริการความงามที่โดดเด่นเรื่องสกินแคร์ชื่อดังจากเยอรมนี…จนทำให้ผลประกอบการของ SPA ขาดทุน 3 ปีซ้อน…
โดยในปี 2563 มีรายได้รวม 435.62 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 209.08 ล้านบาท ถัดมาปี 2564 รายได้รวมเหลือแค่ 174.94 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิเพิ่มเป็น 286.72 ล้านบาท และปี 2565 มีรายได้รวม 721.37 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 88.03 ล้านบาท
โอเค…เริ่มเห็นกำไรเมื่อปีที่แล้ว โดยปี 2566 มีรายได้รวม 1,473.29 ล้านบาท กำไรสุทธิ 332.14 ล้านบาท…ซึ่งกลับมาพร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น แต่ยังเห็นความตึงเครียดของธุรกิจซ่อนอยู่..!!
กระทั่งสถานการณ์การท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นวีซ่า 60 วัน ให้กับ 93 ประเทศ รวมทั้งมาตรการวีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน ที่ช่วยผลักดันให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเพิ่มมากขึ้น
แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าหลักของ SPA หนีไม่พ้นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ก็ทำให้ความตึงเครียดของธุรกิจเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น..!!
พอเริ่มผ่อนคลาย…สิ่งที่ตามมาเริ่มเห็นการขยับขยายธุรกิจ ล่าสุดเตรียมเปิดแบรนด์ Let’s Relax ในโรงแรมเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1)โรงแรม Holiday Inn Resort Phuket Karon Beach จ.ภูเก็ต ระยะเวลา 2 ปี โดยสามารถขยายเวลาต่อได้อีก 2 ปี คาดจะเปิดให้บริการเดือน ก.ค. 2567 นี้
2)โรงแรม Centara Ao Nang Beach Resort & Spa จ.กระบี่ ระยะเวลา 3 ปี สามารถขยายเวลาต่อได้อีก 3 ปี คาดจะเปิดให้บริการเดือน ส.ค. 2567 นี้ และ 3)โรงแรม Centara Anda Dhevi Resort & Spa Krabi จ.กระบี่ ระยะเวลา 3 ปี สามารถขยายเวลาต่อได้อีก 3 ปี คาดจะเปิดให้บริการเดือน ส.ค. 2567 นี้
นอกเหนือจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดอีก 3-4 สาขาในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงสองสาขาในกรุงเทพฯ และหนึ่งสาขาในเชียงใหม่อีกด้วย
การรุกเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง บ่งบอกว่า SPA เริ่มคลายเส้นธุรกิจมากขึ้น..!!
แม้จะต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น…แต่นั่นก็หมายถึงโอกาสที่จะมีรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น ถ้าไม่สะดุดยอดหญ้าไปเสียก่อน ก็น่าจะเห็นผลประกอบการปี 2567 เติบโตแข็งแกร่งตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ…
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 อาจจะไม่ได้โตแรงแซงทางโค้ง เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย แต่จะเห็นการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างแน่นอน รับอานิสงส์การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ด้านราคาหุ้น SPA ที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ชี้ว่าน่าจะสะท้อนความอ่อนแอของงบไตรมาส 2/2567 ไปหมดแล้ว
ขณะที่ SPA ยังมีสตอรี่เชิงบวกจากการเตรียมจะยกสถานะขึ้นไปเทรดใน SET คาดในช่วงไตรมาส 3/2567 นี้ หลังจากซื้อขายในตลาด mai มาครบ 10 ปี (เข้าเทรด 31 ต.ค. 2557 ด้วยไอพีโอ 1.70 บาท)…
ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังเชียร์ “ซื้อ” เป้าหมายสูงสุด 10.80 บาท
แต่ถ้ายังไม่เข้าตา…ก็ไม่ว่ากัน
นานาจิตตัง..!?
…อิ อิ อิ…