ATP30 ลงทุนสู่อนาคต

หุ้นขนาดเล็กที่มีนวัตกรรมในด้านการขนส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ คือ ATP30 ในแง่ของโมเดลธุรกิจรถบัสรับส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมแบบพรีเมี่ยม ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกำลังเข้าทดแทนผู้ประกอบการเดิมๆ ในตลาดรวมที่ตลาดขยายตัว 10-14% ต่อปี


–คุณค่าบริษัท–

 

หุ้นขนาดเล็กที่มีนวัตกรรมในด้านการขนส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ คือ ATP30 หรือบริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) ในแง่ของโมเดลธุรกิจรถบัสรับส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมแบบพรีเมี่ยม ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกำลังเข้าทดแทนผู้ประกอบการเดิมๆ ในตลาดรวมที่ตลาดขยายตัว 10-14% ต่อปี

ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่มีสัญญาระยะยาวกับโรงงานอุตสาหกรรมชั้นนำขนาดใหญ่ถึง 22 ราย และกำลังทยอยเซ็นต์สัญญาใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลูกค้าเก่ายังคงต่ออายุสัญญาอย่างเหนียวแน่น ทำให้ลักษณะรายได้และกำไร จะดูคล้ายกับโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตเพิ่มต่อเนื่อง

อีกทั้งในปีนี้ กำลังการให้บริการใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น 9% ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 59 จากนั้นต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มลดลง จากการคืนหนี้สินจำนวนมากตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 58 และเครดิตที่ดีขึ้นหลังเข้าตลาดฯ ทำให้อำนาจต่อรองเรื่องดอกเบี้ยจะดีขึ้นมาก รวมถึงแนวทางปรับไปใช้ระบบ Project Finance จัดหารถ ซึ่งจะประหยัดดอกเบี้ยได้อีก ยิ่งไปกว่านั้น ATP30 อยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าใหม่อีก 3-6 ราย จะเห็นผลลัพธ์ปี 2559 ซึ่งมองว่าเป็นสัญญาณที่ดีจากก่อนหน้ามีลูกค้าใหม่ปีเพียงละ 1-2 ราย

ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรในไตรมาส 4 ปี 58 จะโตแรง เพิ่มขึ้น 247% จากงวดเดียวของไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 453% จากงวดเดียวของปีก่อน พร้อมกับมองว่าจะทะสถิติต่อเนื่องในไตรมาส 1 ปี 59

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 68.13 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 62.20 ล้านบาท แต่บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 2.02 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3.16 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น สาเหตุสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของกำไรสุทธิเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหารซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 198.10 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 172.05 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น แต่บริษัทกับทำกำไรทั้งสิ้น 6.06 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 6.77 ล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้น ถือว่ากำไรโดยรวมยังประคองได้อยู่

สิ่งสำคัญเมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงดูดี เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 146.98 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียน 87.53 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio อยู่ที่ระดับ 1.68 เท่า แสดงว่า สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทยังมากพอสมควร       

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวม 270.40 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 227.32 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 1.19 เท่า แสดงว่า ปัญหาหนี้สินที่มีอยู่พอรับได้ และถือว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานเท่าไร

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งมองว่า ATP30 ที่กำลังเดินหน้าสู่ Super Cycle จะมีกรอบราคาเหมาะสมที่กว้างได้ถึง 1.29-4.77 บาทต่อหุ้น โดยวิธีคิดลดกระแสเงินสดจะให้ค่าสูงสุดจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมากเกือบ 5 เท่าของกำไรสุทธิ ส่วนค่าเฉลี่ย PER 22.8 เท่า ของกลุ่มขนส่งฯ น่าจะเป็นตัวแทนได้ดีในจุดเริ่มต้นของวงจรขาขึ้นนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 1.95 บาทต่อหุ้น

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายปิยะ เตชากูล 49,000,000 หุ้น 11.14%

2.นางสายสุทธิ์ เตชากูล 49,000,000 หุ้น 11.14%

3.นายชาติชาย พานิชชีวะ 40,320,000 หุ้น 9.16%

4.นายวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ 39,200,000 หุ้น 8.91%

5.บริษัท กรมดิษฐ์คอร์ป จำกัด 28,000,000 หุ้น 6.36%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย ชาติชาย พานิชชีวะ ประธานกรรมการ

2.นาย วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ รองประธานกรรมการ

3.นาย ปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ

4.นาย ปิยะ เตชากูล กรรมการ

5.นาง สมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการ

Back to top button