SCC ช้างเหยียบหนาม.!

เกิดอาการเซ็งเป็ดไปตาม ๆ กัน…เมื่อบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ประกาศงบไตรมาส 2/2567 ทำกำไรหล่นหายไปตั้ง 54% เหลือกำไรสุทธิแค่ 3,708 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,082 ล้านบาท…ตัวกดดันหลักก็มาจากธุรกิจปิโตรเคมี เท่านั้นไม่พอยังมีค่าใช้จ่ายจากเหตุเพลิงไหม้ที่คลังน้ำมันบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด งอกขึ้นมาอีก…

ส่งผลให้งวดครึ่งแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 6,133 ล้านบาท ลดลง 75% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24,608 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 252,461 ล้านบาท ลดลง 0.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 253,379 ล้านบาท

เมื่อประเมินสถานการณ์ดูแล้ว เป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้จะมีรายได้เติบโต 20% คงทำไม่ได้แหง ๆ…SCC เลยจำใจต้องหั่นเป้าการเติบโตในปีนี้เหลือแค่ 10% เท่านั้น..!!

สาเหตุก็มาจากธุรกิจปิโตรเคมีที่ยังไม่ออกดอกออกผล โดยเฉพาะโครงการลองเซินปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals : LSP) ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการเรือธงของ SCC แต่กลับเจอโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ล่าสุดขยับการดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเป็นไตรมาส 4/2567

นั่นอาจด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ กำลังซื้อยังฟื้นไม่เต็มที่ ผนวกกับผลพวงจากวิกฤตโควิดที่สร้างความบอบช้ำให้กับทุกภาคส่วน ทำให้โครงการต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย…

ทั้ง ๆ ที่ SCC ก็พยายามปรับตัวนะ ไปแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน Recycling Holding Volendam BV (Kras) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจการจัดการขยะใช้แล้วจากประเทศเนเธอร์แลนด์ มูลค่าประมาณ 55.1 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,100 ล้านบาท

การร่วมลงทุนกับบริษัท Denka Company Limited (Denka) ประเทศญี่ปุ่น เพื่อจัดตั้งบริษัทสำหรับธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอะเซทิลีนแบล็ก (Acetylene black), การจับมือกับ Xiamen ZiFiSense InfoTech Co., Ltd (ZiFiSense) บริษัทสัญชาติอังกฤษ แต่เป็นเจ้าของเครือข่าย Zeta Network โดยมีฐานตลาดในประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมจัดตั้งบริษัท Zifisense Asia เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายและพัฒนาสินค้าแพลตฟอร์ม ด้าน IoT Solutions

การร่วมทุนกับบริษัท Big Bloc Construction Limited (BCL) เพื่อผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาและแผ่นผนังมวลเบา กำลังการผลิตรวมประมาณ 2.6 ล้านตารางเมตร (หรือประมาณ 250,000 ลูกบาศก์เมตร) ในรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เป็นต้น

ก็เข้าใจแหละว่าอยู่ในช่วงรอเก็บเกี่ยวดอกผล…แต่อาจจะรอนานไปสักหน่อย

ครั้นกลับมามองสถานการณ์ในบ้านเรา…ยังอยู่ในภาวการณ์ประคับประคองเศรษฐกิจ เห็นได้จากจีดีพีที่โตต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไตรมาสแรกของปีนี้โตแค่ 1.5% (แหม๊…โตเหมือนไม่อยากจะโตเลยเนอะ) มิหนำซ้ำการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐก็ล่าช้า งานก่อสร้างต่าง ๆ ก็น้อย แถมการจ้างงานต่ำอีก…

จากปัจจัยที่ไล่เรียงมา สะท้อนออกมาเป็นผลประกอบการของ SCC ที่ไม่ค่อยสู้ดี…

เมื่องบไม่ดี…SCC ก็ต้องปรับเป้าหมายลงมานั่นเอง…

ว่าไปแล้ว สถานการณ์ SCC ตอนนี้ก็ไม่ต่างจากช้างเหยียบหนาม แม้ไม่ถึงขั้นช้างล้ม…แต่คงเดินลำบากนิดหนึ่ง

แต่ด้วยหนังช้างที่หนา…อีกไม่นานคงดีขึ้นละมั้ง..!?

งั้นถ้ารักชอบกันจริง ก็อดใจรอหน่อยนะ…

…อิ อิ อิ…