พาราสาวะถี
บอกแล้วแววมันออก อาการความไม่พอใจของ สส.ที่มีต่อท่าทีของสมาชิกพรรคสืบทอดอำนาจซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลนั้น คือภาพสะท้อนความไม่เป็นเอกภาพในการบริหารงาน
บอกแล้วแววมันออก อาการความไม่พอใจของ สส.ที่มีต่อท่าทีของสมาชิกพรรคสืบทอดอำนาจซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลนั้น คือภาพสะท้อนความไม่เป็นเอกภาพในการบริหารงาน หัวไปทางหางไปอีกทิศ สรุปแบบฟันธง พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ที่เห็นรับคนเข้าพรรค ก็ล้วนแต่เป็นพวกสอบตก ไร้ราคา ขณะที่แม่บ้านพรรคอย่าง ธรรมนัส พรหมเผ่า คือตัวจริงเสียงจริง บรรดาสมาชิกที่เป็น สส.และกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ พร้อมใจกันเชื่อฟัง
เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อน เมื่อขั้วอำนาจเปลี่ยน บวกกับจำนวน สส.ที่มีอยู่ในมือเป็นตัวชี้วัดระดับการต่อรอง หากยังหวังลม ๆ แล้ง ๆ ถึงโอกาสที่จะกลับมายิ่งใหญ่ ไม่มีทางที่จะได้ไปต่อ มันจึงเกิดกระแสข่าวเขี่ยพลังประชารัฐพ้นพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหน้า ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่า ใครทำและหวังผลอะไร เมื่อความจริงสิ่งที่แนวร่วมของผู้กองมันคือแป้ง มองกันไปถึงการเตรียมพร้อมสำหรับเลือกตั้งครั้งหน้ากันแล้ว ก็ยังมีพวกที่มะงุมมะงาหราเชื่อว่า ยังไงอำนาจเก่าได้กลับมาแน่
เป็นการหลอกและให้กำลังใจกันเอง พวกที่เข้าใจสถานการณ์อย่างแท้จริงต่างหาที่หมายใหม่ ที่มั่นใจว่าเลือกข้างนี้ยังไงก็ไม่ตกขบวนของการกุมอำนาจบริหารบ้านเมือง ย้ำแล้วย้ำเล่า ที่บรรดาขาใหญ่ซึ่งไปปรากฏตัวร่วมก๊วนกอล์ฟ รวมทั้งวงร้องเพลงของ ทักษิณ ชินวัตร พร้อม แพทองธาร ต่างพากันยืนยัน ไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่ มันก็แค่ลีลาทางการเมืองที่ต้องปฏิเสธเช่นนั้น ความจริงก็คือ ภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากดีลพิเศษ ไม่ได้จบแค่ตั้งรัฐบาล พร้อมดัน เศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้นำประเทศเท่านั้น
ทุกอย่างถูกจัดวางไปถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป นั่นหมายความว่า ยังมีดีลที่ใหญ่กว่า การยึดครองสภาสูงสำเร็จภายใต้การบริหารจัดการของกุนซือใหญ่แห่งค่ายสีน้ำเงิน ถือเป็นการเตรียมความพร้อม รองรับสถานการณ์ทางการเมืองหากการประสานความร่วมมือของขั้วการเมืองปัจจุบัน ไม่สามารถที่จะทานกระแส เอาชนะพรรคสีส้มได้ แต่การสามารถขยับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จนเกิดความคึกคักในแง่ของความตื่นตัวจากกลุ่มเป้าหมาย ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับรัฐบาล
ขณะที่คดีความของเศรษฐา ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ การที่ วิษณุ เครืองาม ให้สัมภาษณ์ยืนยันท่านผู้นำสู้เต็มที่ โดยเตรียมส่งแถลงการณ์ปิดคดีภายในวันนี้ (31 กรกฎาคม) เท่ากับเป็นการส่งซิกว่า ข้อกล่าวหาที่ถูกร้องนั้นมีช่องทางที่จะสามารถหักล้างได้ สังเกตจากความเห็นของเนติบริกรชั้นครูที่ว่า เอกสารแถลงปิดคดีมีสองสามหน้า แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ มันก็คือการขมวดปมที่ว่ากันว่า วิษณุนั้นรู้ดีว่าจี้ตรงไหนแล้วมีโอกาสรอดมากกว่าถูกสอย
ต้องรอดูว่าจะเป็นไปตามที่คาดหมายไว้หรือไม่ หากเศรษฐารอดก็เท่ากับการติดปีกให้รัฐบาล โครงการต่าง ๆ จะสามารถเดินหน้าได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต คาดว่าจะมีการแถลงข่าวที่เหลืออีกสองครั้ง เพื่อเรียกเรตติ้ง กระพือกระแส ล้อไปกับท่วงทำนองการเดินเกมของทีมงานหลังบ้านผู้มากบารมี มีการมองข้ามช็อตไปถึง โฉมหน้าของรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่กันแล้ว ท่ามกลางความสงสัยว่า มั่นใจอย่างไรจะชนะ
ย้อนกลับไปที่โจทย์เดิม ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ หากสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ ย่อมมีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ความเป็นจริงก็รู้กันอยู่ว่า ก้าวไกลไม่ว่าสภาพหลังคดียุบพรรคจะออกมาอย่างไร หากจะเข้าสู่อำนาจบริหารประเทศได้ ต้องชนะแบบแลนด์สไลด์สถานเดียวเท่านั้น กรณีที่ถูกสอย การเสียขุนพลคนสำคัญอย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไป จริงอยู่ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นผู้นำ ก็น่าจะได้รับคะแนนสงสาร แต่มันจะมากพอเพื่อไปสู่เป้าหมายสำคัญได้หรือไม่
โจทย์เหล่านี้ถือเป็นความท้าทาย เหมือนเช่นที่พรรคก้าวไกลยังคงทายท้ากับคดียุบพรรค ด้วยการจัดเวทีวิจารณ์ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ด้วยการให้ ปิยบุตร แสงกนกกุล พูดในเชิงวิชาการเกี่ยวกับการยุบพรรค ซึ่งสวนทางกับคำสั่งศาลก่อนหน้านี้ว่าไม่ให้คู่กรณีพูดถึงคดีเพราะจะเข้าข่ายกดดันชี้นำกระบวนการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ท่าทีที่เป็นไปในลักษณะนี้มันก็ไม่ต่างจากกรณีที่อนาคตใหม่เคยถูกตัดสินก่อนหน้า
ต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่า เผด็จการสืบทอดอำนาจนั้นอาจจะสามารถวางกลไก คุมเกมในการตรวจสอบ และนำไปสู่การเล่นงานฝ่ายตรงข้ามได้ ในรูปแบบนิติสงคราม แต่ใช่ว่าจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะเห็นชัดว่า กลไกว่าด้วยการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมนั้น พรรคที่ได้รับอานิสงส์เต็ม ๆ คือ อนาคตใหม่ พอเปลี่ยนรูปแบบ ก็กลายเป็นว่ากระแสความเบื่อหน่ายดันมาพอเหมาะพอเจาะ ประกอบกับการใช้การปล่อยข่าวผ่านช่องทางโซเชียลที่พรรครุ่นใหม่ถนัด มันจึงทำให้ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างที่เห็น
แต่พวกนักเลือกตั้งอาชีพจะเรียนรู้เร็ว การปรับเปลี่ยนภายในพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของอุ๊งอิ๊งจึงเกิดขึ้น ขณะที่รัฐบาลก็เร่งสร้างผลงาน ขวบปีแรกดูเหมือนจะไม่เข้าตา จนเศรษฐาถูกค่อนขอดว่าเหนื่อยฟรี พอถึงเวลานี้เมื่อดิจิทัลวอลเล็ตทำท่าว่าจะขยับได้ตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ ทำให้บรรดาพรรคร่วมขบวนต่างมั่นใจว่าสิ่งที่ร่วมทำกันมาไม่สูญเปล่า ถ้าความคึกคักที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภาพลวงตา ย่อมหมายถึงอนาคตที่สดใสกำลังรออยู่ แค่รอเวลาสิ่งที่ดำเนินการผลิดอกออกผลเท่านั้น
การเดินเกมของนายใหญ่ที่เขาใหญ่ไม่ว่าจะมีปฏิญญาหรือไม่ มันจึงไปไกลกว่าการมานั่งมองกันว่า มีการเจรจาเพื่อสยบความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล คนเหล่านั้นที่ร่วมเฟรมต่างก็เป็นพวกที่มองตารู้ใจ ส่วนจะไว้ใจได้หรือไม่ ก่อนหน้านั้นอาจมีการหักหลัง หรือใครจะหลังหักมาก่อนไม่ใช่สาระสำคัญ รู้กันแค่ว่า บริบทของการขับเคลื่อนที่เป็นอยู่ และกำลังดำเนินการ มันมากกว่าคำว่าระดับนำของพรรคที่มีอำนาจต่อรองกันในลักษณะวิน-วินเกม เพราะเบื้องหลังความชื่นมื่นของทักษิณและอนุทินนั้น คนในแวดวงต่างรู้ดี ยังไงเสียพรรคและพวกไม่หลุดจากวงโคจรแห่งการยึดกุมอำนาจแน่นอน
อรชุน