หลอกมาฟัน?

การทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของดัชนีในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่แฮปปี้มาก ๆ เพราะทำให้รายย่อยได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้ง


การทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของดัชนีในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่แฮปปี้มาก ๆ เพราะทำให้รายย่อยได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้ง พร้อมกับออกของบางส่วน เพื่อชดเชยผลขาดทุนก่อนหน้านี้ แต่ในขณะเดียวกันจะเห็นว่า คนที่ดันดัชนีขึ้นแบบไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเลย ดันกลายเป็นกองทุนที่ตะลุยซื้อหุ้นแบบงง ๆ ซึ่งเป็นเกมที่โหดเกินไปหน่อยในภาวะตลาดหุ้นผันผวนนะตัวเอง

เนื่องจากข้อมูลที่ทุกคนรับรู้กันเป็นอย่างดีก็คือ 10 ปีที่แล้วตลาดหุ้นไทยก็อยู่ตรงนี้ พอมาถึงวันนี้ตลาดหุ้นไทยก็ยังอยู่ที่เดิม แต่ที่แย่หนักกว่าเมื่อก่อนก็คือเศรษฐกิจมันฝืดเคืองเหลือเกิน จนมองไม่เห็นหนทางที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาเฟื่องฟู “โมนิก้า” จึงจำเป็นต้องจั่วหัว “หลอกมาฟัน?” เพื่อเป็นการตั้งคำถามเรื่องที่เกริ่นในเบื้องต้นมีมูลขนาดไหน? เพราะวันนี้คนส่วนใหญ่ดันเม้าท์ว่า หุ้นไทยไม่น่าลงทุนน่ะซี

ยิ่งวานนี้ดัชนีทำท่าเหมือนจะไปต่อสวย ๆ แต่สุดท้ายกลับโดนรินขายช่วงท้ายตลาด จนดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,308.09 จุด บวกไปแค่ 0.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.55 หมื่นล้านบาท กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกปวดหัวหนักกว่าเดิม เพราะภาพที่ออกมาเหมือนบอกเป็นนัยว่า คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเล่นหุ้นในราคาที่สูงกว่านี้ หลังเคยมีประสบการณ์ขาดทุนหนักในช่วงที่ดัชนีขึ้นไปแตะบริเวณ 1,330 จุดเจ้าค่ะ

ขนาดหุ้นตัวเด่น ๆ อย่างพี่เทพ PTTEP ยังถูกเทขายแบบไม่ดูดำดูดี และทุกครั้งที่เริ่มตั้งลำได้อีกครั้ง มักมีแรงขายชุดใหญ่ถล่มออกมาไม่เลี้ยง “โมนิก้า” เลยอยากถามนักเล่นว่า การลงมายืนปิดโลว์ของวันที่ระดับ 142 บาท ลบไป 5 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 861 ล้านบาท ทั้งที่สองวันก่อนเพิ่งไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ มันหมายความว่า เลิกวงแล้วใช่ไหม?..ถ้าไม่ใช่ มันคืออะไรพะย่ะค่ะ

เช่นเดียวกับหุ้นไก่น้องใหม่อย่าง FM ยังถูกขายช่วงท้ายตลาด ทั้งที่พยายามตั้งลำเพื่อขึ้นไปยืนเหนือราคาไอพีโอที่ระดับ 5.40 บาท และดูเหมือนจะทำได้เหมือนที่ใครคาดหวัง แต่สุดท้ายก็มีอันพังทลายแบบไม่เป็นท่า หลังราคาหุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 4.68 บาท ลบไป 0.32 บาท หรือลงไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 597 ล้านบาท พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า วันนี้จะเป็นอย่างไร?

เมื่อกระแสตลาดหุ้นไม่เป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพราะนักเล่นมีประเด็นที่ทำให้กังวลเยอะ “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่น้องมิ้น MINT สุดสวยจะเป็นหุ้นอีกตัวที่โดนรินขายตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายยืนปิดที่ 29.25 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 560 ล้านบาท แต่ถึงกระนั้นก็มีมุมที่น่าคิดเหมือนกันว่า เที่ยวก่อนที่หุ้นเด้งกลับช่วงสั้น ๆ ขึ้นไปบริเวณ 31 บาท ก็เกิดขึ้นตรงบริเวณนี้แหละคุณแม๊!

ส่วนรายที่ทำให้ “โมนิก้า” เซอร์ไพรส์สุด ๆ และไม่นึกจะมีคนกระโดดเข้ามาเล่นแบบสุดซอย คงต้องมองไปที่หุ้น SABUY เพื่อชี้ให้เห็นการพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.69 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 16.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 116 ล้านบาท ล้วนเกิดจากการเปลี่ยนตัวผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เป็น “เสี่ยหมู” หรือชื่อเต็ม ‘วริศ ยงสกุล’ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของกลุ่มบริษัท “โบ๊ท ลากูน” แบบนี้..กลายเป็นหนังม้วนยาวอีกแล้วค่ะท่าน

ประเด็นข้างต้นบังคับให้เดี๊ยนต้องเอ่ยถึง MONO ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 67 ซึ่งเป็นวันแรกที่หุ้นขยับตัวขึ้นมาปิดที่ 0.55 บาท และเป็นวันที่หุ้นเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น ก็ยังไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงของการขึ้นอย่างบ้าเลือด และวานนี้ก็เป็นอีกครั้งที่หุ้นโชว์ของแบบโอเว่อร์แอคติ้งด้วยการปิดที่ 1.28 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 7.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46 ล้านบาท ซึ่งเป็นนิวไฮในรอบ 1 ปี 2 เดือนแบบนี้..บอกได้คำเดียวว่า ธรรมดาโลกไม่จำ!..อิอิอิ

เช่นเดียวกับในรายของ YGG มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างหนาแน่น จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.57 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 18% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 429 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมเร็วที่นักเล่นต้องเผื่อใจไว้มาก ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “ธุรกิจ ผู้บริหาร หุ้น” มันสัมพันธ์กันโดยตรง เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันเกิดจากการเคลียร์หลังบ้านจบแล้วหรือเปล่า?..ใครรู้ ก็ช่วยบอกหน่อย นึกเสียว่าเอาบุญ!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button