พาราสาวะถี
เข้าสู่เดือนสิงหาคมสถานการณ์การเมืองเดินมาถึงโหมดลุ้นระทึกกันอีกกระทอก ต้นสัปดาห์ 7 สิงหาคม คดียุบพรรคก้าวไกลจะมีการชี้ขาด
เข้าสู่เดือนสิงหาคม สถานการณ์การเมืองเดินมาถึงโหมดลุ้นระทึกกันอีกกระทอก ต้นสัปดาห์ 7 สิงหาคม คดียุบพรรคก้าวไกลจะมีการชี้ขาด แม้จะทำใจดีสู้เสือแต่ข่าววงในทั้งแกนนำและลูกพรรคต่างพากันถอดใจ มองไปถึงการเตรียมพรรคใหม่กันไว้แล้ว ประเภทที่ว่าไปไหนไปกันแต่ไม่ทั้งหมด คือความจริงของการเมืองประเทศไทย เล่นยื่นหมูยื่นแมวกันตั้งแต่เริ่มกระบวนการของคดี เช่นนี้ก็รู้แล้วว่าปลายทางจะจบแบบไหน ใครไม่ยึดมั่นในอุดมการณ์อย่างหนักแน่น ย่อมหวั่นไหว แกว่งไกวตามกระสุนเป็นธรรมดา
กระแสเป็นของไม่แน่นอน แต่กระสุนสามารถทำให้คนที่ต้องการสร้างตัวจากถนนสายการเมืองคือความแน่นอน งูเห่าก่อนหน้าที่ไม่สามารถพาตัวเองกลับเข้าสู่สภาได้ เป็นไปตามวัฏจักรของการเมือง ซึ่งหากมองแบบฉาบฉวย คนที่ไม่คิดจะเอาดีทางด้านนี้ถือว่าคุ้มค่าต่อการแปรพักตร์ บางคนตั้งตัวได้ บางรายล้างหนี้สำเร็จ แลกกับการถูกตราหน้าว่าทรยศประชาชน ส่วนคนที่ยังเดินบนถนนสายสีส้มต่อ ก็ใช่ว่าจะอยู่แบบเถรตรงเหมือนที่ผ่านมา ยิ่งอยู่นานยิ่งรู้เส้นทางหลบหลีก เลือกชนเฉพาะบางอย่าง บางเรื่องสามารถที่จะละเว้นไว้ ขอกันได้
เป็นธรรมดา ธรรมชาติของการเมืองแบบไทย ประเภทสุดโต่ง หลักการแน่น อุดมการณ์จ๋า ต้องสามารถเลี้ยงดูตัวเอง และครอบครัวให้รอด เห็นกันอยู่ว่าหลายรายไม่ได้มีธุรกิจอะไรเป็นหลักเป็นแหล่ง โตมาด้วยการเคลื่อนไหวทางการเมือง ลำพังเงินเดือน เบี้ยเลี้ยงจากการเป็น สส.ไม่น่าจะเอาตัวรอด จำเป็นที่ต้องอาศัยพวกต่างพรรค เพื่อช่วยสนับสนุนการทำมาหากิน ไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย เพียงแต่ต้องอาศัยสายสัมพันธ์เพื่อให้ได้งานที่สร้างเม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำ
นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้ฝ่ายกุมอำนาจเบาใจได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะมีท่าทีขึงขังอย่างไรจากฝ่ายค้าน ก็มองเป็นการทำหน้าที่ตามครรลอง พอถึงเวลาไม่ว่าจะซักฟอกกี่หน หรืออภิปรายกันอย่างไร หากไร้ไม้ตาย ไม่มีหลักฐานเด็ด ก็ยากที่จะเอาผิด หรือทำให้เกิดอารมณ์ร่วมทางสังคมช่วยกันตรวจสอบเรื่องราวทุจริตที่มีการกล่าวหากันได้ ไม่ใช่การมองข้าม หรือยอมให้มีการคอร์รัปชัน ที่คนส่วนใหญ่มองคือ หากฝ่ายบริหารเข้ามาทำงานแล้วแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะปัญหาปากท้องของประชาชนได้ อาจจะมีบางเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล แต่เมื่อจนปัญญาหาหลักฐานมาเอาผิด จำเป็นต้องยกประโยชน์ให้จำเลย
ความจริงตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมานั้น มีหลายเรื่องที่สังคมค้างคาใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ในเมื่อองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ ป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ทำตัวไม่ให้เป็นที่ไว้วางใจเสียเอง ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนที่ต้องการจะตรวจสอบ และอยากให้สังคมการเมืองสุจริต โปร่งใส พร้อมใจกันที่จะเกียร์ว่าง วางเฉย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ช้าเร็วก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของบ้านเมือง ส่วนพวกนักร้องทั้งหลายก็ได้เห็นธาตุแท้กันแล้วว่า เอาจริงเอาจัง หรือเอาตังค์กันแน่
ยิ่งใกล้วันพิจารณาคดียุบพรรค ต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งว่า อาการดิ้นของคนในพรรคก้าวไกล เป็นตัวบ่งชี้ได้อย่างหนึ่งถึงบทสรุปที่จะออกมา พรุ่งนี้ (2 สิงหาคม) ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค พร้อม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค จะแถลงต่อสาธารณะถึงคำแถลงปิดคดี โดยให้เหตุผลว่าเพื่อยืนยันถึงแนวทางที่พรรคดำเนินการต่อสู้และปกป้องพรรคเป็นอย่างไรบ้าง ยังไม่หยุดท้าทายเท่ากับเป็นการท้าชน ผลจึงน่าจะแน่นอนว่าเป็นไปในทางยุบมากกว่าไม่ยุบ
ฟากของอำนาจเก่าตกร่อง ความพยายามทำไอโอด้วยการปล่อยเพลงคิดถึงลุงตู่ รวมไปถึงการปลุกบารมีลุงป้อมภายในพรรคสืบทอดอำนาจ นอกจากไม่ได้ผลแล้ว ยังสะท้อนย้อนกลับไปเล่นงานคนที่ถูกพูดถึงอีกต่างหาก ดีที่ว่าลุงคนแรกมีสถานะที่ใครยุ่งด้วยไม่ได้อยู่แล้ว จึงเหลือเพียงลุงผู้พี่ที่อยู่บ้านในป่า ต้องกลืนเลือดรับเคราะห์ไปเต็ม ๆ ช่วยไม่ได้ในเมื่อยังมีความอยากได้อยากเป็น จึงต้องยอมเจ็บตัว ถูกนักเลือกตั้งอาชีพถากถางชนิดที่ไม่เกรงใจ ไม่เกรงขามต่อความเคยเป็นอดีตพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.แม้แต่น้อย
คนใกล้ตัวจำเป็นต้องสะกิดให้ตื่นได้แล้ว อำนาจได้เปลี่ยนมือไปอยู่ภายใต้การดูแลของนายใหญ่และอาจารย์ใหญ่จากค่ายสีแดงและน้ำเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังผ่านกระบวนการต่อรองจนทำให้เรื่องกัญชาที่จะดันกลับไปเป็นยาเสพติด ยังคงอยู่ในโหมดกัญชาเสรีต่อไป เพียงแต่จะมี พ.ร.บ.มาควบคุมการใช้แทน การถอยแบบยอมเจ็บตัว เสียหน้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะไม่มีทางได้เห็น แต่วันนี้ทุกอย่างอยู่ในภาวะน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ถ้าจะคบและอยู่กันแบบยาว ๆ ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย
เป้าหมายในการห้ำหั่น ศัตรูทางการเมืองโฟกัสเห็นตรงกัน ภารกิจถูกกำหนดไว้เช่นนี้ ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ผลประโยชน์ที่สมกันย่อมมีค่ายิ่งมากกว่าความไม่เข้าใจเล็ก ๆ น้อย ๆ นักเลือกตั้งที่ได้ชื่อว่าเซียนเหยียบเมฆ เสียหน้าแต่ไม่เสียหายก็ยินดีที่จะเป็นผู้ถูกกระทำ การพูดคุยทางการเมืองยุคนี้ ประเภททุบโต๊ะเปรี้ยงใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ทุกอย่างต้องเป็นเหตุเป็นผล โดยดูไปถึงปลายทางของการเลือกตั้งครั้งหน้า ควบคู่กับจังหวะก้าวในปัจจุบัน อะไรที่จะทำให้สะดุดต้องช่วยกันขจัดออกไป
การยื่นหมูยื่นแมวของคนเบื้องหลังจากสองพรรคแกนนำรัฐบาลนั้น ว่ากันว่า ทำได้ง่ายกว่าก่อนหน้านี้ เนื่องจากอำนาจที่ทรงพลัง ไม่ได้มีอคติกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด มิหนำซ้ำ ยังสนับสนุนให้ช่วยกันสร้างผลงานให้เป็นที่ปรากฏ นำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งไปให้ได้ มันจึงทำให้การมองสภาพปัญหา วางเกมแก้ไข และสกัดกั้นคู่แข่ง หลายเรื่องสามารถประสาน ทำร่วมกันได้ เมื่อการเมืองหลังบ้านนิ่ง ย่อมส่งผลต่อความกล้าในการเดินหน้าสู้ปัญหาของ เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะผู้นำรัฐนาวา
บทบาทของ สว.ชุดใหม่ ฟังจากบทสัมภาษณ์ของ สรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว.กลุ่มวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม ต้องบอกว่าน่าจะทำให้เศรษฐาและรัฐบาลสบายใจขึ้นเป็นกอง เพราะมีการย้ำว่า สภาสูงไม่มีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารเป็นเรื่องของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องทำ สว.ปัจจุบันจะทำงานสร้างสรรค์ให้รัฐบาลเดินต่อในการทำงาน การตรวจสอบจะไม่เข้มข้นเหมือนที่ผ่านมา เข้าใจกันหรือยัง สว.สายสีน้ำเงินมาเพื่อกดดัน หรือหนุนการทำงานของฝ่ายกุมอำนาจกันแน่
อรชุน