ฝรั่งลากหุ้น?
ประเด็นที่ต่อเนื่องจากวันก่อน น่าจะเป็นการขึ้นของดัชนีจะไปถึง 1,330 จุดได้หรือเปล่า? และเมื่อขึ้นไปถึงบริเวณดังกล่าวจะไปต่อไหม?
ประเด็นที่ต่อเนื่องจากวันก่อน น่าจะเป็นการขึ้นของดัชนีจะไปถึง 1,330 จุดได้หรือเปล่า? และเมื่อขึ้นไปถึงบริเวณดังกล่าวจะไปต่อไหม? ล้วนเป็นคำถามที่ดังกึกก้องอยู่ในหัวเดี๊ยนตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ได้ผู้รู้มาชี้แจงให้หายข้องใจว่า ดัชนีมีโอกาสไปต่อค่อนข้างสูง! เพราะเขาเชื่อว่า การมาของกองทุน TESG และกองทุนวายุภักษ์ จะกลายเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ต่างชาติหันกลับมาซื้อหุ้นมากกว่าเดิมเจ้าค่ะ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การทะยานของดัชนีอย่างร้อนแรง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,320.86 จุด บวกไป 12.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.26 หมื่นล้านบาท ล้วนมาจากแรงซื้อของต่างชาติเป็นหลัก หลังประเมินความเสี่ยงในการลงทุนมีไม่มากเหมือนเมื่อก่อน ผนวกกับในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีก็วนเวียนไปมาที่ระดับ 1,280-1,330 จุด จึงเป็นระดับที่บริหารพอร์ตลงทุนได้คล่องตัวพอสมควรพะย่ะค่ะ
เมื่อเป็นเช่นนี้ “โมนิก้า” ก็รู้สึกใจฟูขึ้นมาทันที เพราะมันหมายความว่า บลูชิพจะกลับมาผงาดอีกครั้ง และเรื่องนี้ก็ได้รับการยืนยันเบื้องต้นจากแรงซื้อที่เริ่มกลับมาหนาแน่นขึ้นในหุ้นใหญ่บางตัว และกลายเป็นประเด็นที่ต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับแฟนคลับว่า หุ้นตัวที่เดี๊ยนกำลังเอ่ยถึงมีประเด็นน่าสนใจจริงไหม? เพราะข่าวสารของตลาดหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาน่ะซี
ตัวแรกที่ต้องเอ่ยถึง “โมนิก้า” ขอมองไปที่เจ้าพ่อร้านสะดวกซื้อ CPALL หลังพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 58.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.96 พันล้านบาท ซึ่งหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่เป็นการดีดตัวรับข่าวลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลหมื่นบาทแบบนี้ ถือเป็นประเด็นที่น่ารับฟังเหมือนกัน และเชื่อได้ว่า เมื่อถึงเวลาที่คนทั่วไปใช้เงินที่ได้รับแจกจริง ๆ หุ้นตัวนี้ก็ได้อานิสงส์เต็ม ๆ นะจ๊ะ
ส่วนหุ้นตัวแบกของตลาดหุ้นไทยอย่าง DELTA ยังคงอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม หลังวานนี้ขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 102 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.75 พันล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมหุ้นจะใส่กันอีกนานพอสมควร เพราะเป็นหุ้นที่กองทุนต้องมีติดพอร์ตไว้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรโตตามที่นักลงทุนคาดหวังไงล่ะคะ
ในเมื่อหาหุ้นที่มีสตอรี่ดี ๆ มาเล่นกันทั้งที “โมนิก้า” ก็มีความจำเป็นต้องเอ่ยถึง IVL เพื่อชี้ให้เห็นการเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 19.30 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 732 ล้านบาท น่าจะเป็นผลมาจากการติดโผอยู่ใน TESG ซึ่งเป็นไฟต์บังคับที่กองทุนต้องซื้อ ผนวกกับปีนี้ถูกคาดหวังจะกลับมามีกำไร (แม้ไตรมาส 2 จะขาดทุนก็ตาม) จึงกลายเป็นจังหวะเริ่มเก็บของก็เท่านั้นเอง
เช่นเดียวกับในรายของ PTTEP ที่เดี๊ยนเม้าท์ไปเมื่อวันก่อนว่า ทำไมราคาหุ้นถึงทรุดฮวบ! แต่วานนี้กลับพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 147 บาท บวกไป 5 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.77 พันล้านบาท ก็มาพร้อมกับคำเฉลยที่ว่า กำไรโตกว่าที่คิด จึงเป็นเหตุให้กองทุนกลับมาไล่ซื้อหุ้นอีกครั้ง ผสานกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกผงกหัวขึ้นอีกครั้ง จึงกลายเป็นเกมที่น่าลุ้นต่อเจ้าค่ะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น TRUE ขึ้นมาทันที เพราะการขยับตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 พร้อมกับปิดไปที่ระดับ 9.25 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 785 ล้านบาท มันมาพร้อมกับความท้าทายที่ว่า หุ้นจะไปต่อไหม? เพราะเที่ยวก่อนหุ้นก็ปิดเกมตรงบริเวณนี้ ส่วนเที่ยวนี้ยังไม่รู้จะเอาอะไรมาซัพพอร์ตการขึ้นไปทำนิวไฮในรอบหลายปี จึงขอให้เป็นหน้าที่ของนักลงทุนได้ค้นหาคำตอบด้วยตัวเองนะจ๊ะ
ตบท้ายกันที่หุ้น HMPRO เพื่อชี้ให้เห็นการถีบตัวขึ้นช้า ๆ ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่า สิ้นสุดขาลง และกำลังเปลี่ยนถ่ายไปเป็นขาขึ้นรอบใหม่ใช่ไหมเอ่ย? เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็อยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 9.10 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 545 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 18 เท่า และมีปันผลในระดับ 3% น่าสนใจไหมคะ
โมนิก้า: และทีมงาน