ยังอยู่ที่เดิม โมนิก้าและทีมงาน
*ข้อมูลอย่างหนึ่งที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์มากที่สุดในห้วงเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องของคนในวงการตลาดเงินตลาดทุน แต่เป็นเรื่องที่ดัชนีวนเวียนไปมาอยู่ที่ระดับ 1,230-1,280 จุด เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ แถมประเด็นข่าวที่กลายเป็นตัวชี้นำดัชนี ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่ได้ยินได้ฟังกันจนเบื่อ ถึงขนาดที่ว่า พรายกระซิบยังรู้สึกเอียนกับเหตุผลที่นำมาอธิบายการขึ้นลงของดัชนีกันเลยทีเดียวเจ้าค่ะ
*ข้อมูลอย่างหนึ่งที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์มากที่สุดในห้วงเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องของคนในวงการตลาดเงินตลาดทุน แต่เป็นเรื่องที่ดัชนีวนเวียนไปมาอยู่ที่ระดับ 1,230-1,280 จุด เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ แถมประเด็นข่าวที่กลายเป็นตัวชี้นำดัชนี ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่ได้ยินได้ฟังกันจนเบื่อ ถึงขนาดที่ว่า พรายกระซิบยังรู้สึกเอียนกับเหตุผลที่นำมาอธิบายการขึ้นลงของดัชนีกันเลยทีเดียวเจ้าค่ะ
*ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาน้ำมัน เศรษฐกิจจีนชะลอตัว หรือแม้กระทั้งท่าทีของเฟด ล้วนเป็นคำอธิบายที่มีการพูดถึงมาไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ และสัปดาห์นี้ก็คงได้ยินราวเรื่องแบบนี้อีกเหมือนเดิม “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเตรียมตัวเตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า เดี๋ยวก็ขึ้นแรง…เดี๋ยวก็ลงแรง สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่? จึงอย่าคาดหวังอะไรมากกว่านี้อีกเลยนะคะ
*ฉะนั้นการที่ดัชนีทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,272.09 จุด หลังจากนั้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,268.03จุด บวกไป 22.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.24 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นสามารถประเมินสถานการณ์ได้ด้วยตนเองว่า ข้อมูลที่เล่าให้ฟังผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงที่เคยเกิดขึ้นแค่ไหน? หากได้คำตอบจากเรื่องที่เดี๊ยนได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ วันนี้ก็คงรู้แล้วว่า ควรทำตัวอย่างไรนะจ๊ะ
*เหมือนกับการทะยานขึ้นของPTTถ้าประเมินอย่างเป็นทางการเห็นว่า แพตเทิร์นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม! แถมตัวแม่ต้องฝ่าแนวต้านแรกที่บริเวณ 230 บาท ต่อจากนั้นถึงจะมีสิทธิ์ขึ้นไปทดสอบแนวต้านสองที่บริเวณ 250 บาท ขณะที่กรอบล่างที่หุ้นชอบลงมาพักตัวเป็นประจำอยู่ที่ 200 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้พิจารณากันอีกครั้งว่า การขึ้นมาปิดที่ 218 บาท บวกไป 14 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 5 พันล้านบาท มันน่าเล่นต่อหรือเปล่า?
*เช่นเดียวกับตัวลูก PTTEPทะยานขึ้นมาปิดที่ 48.25บาท บวกไป 5.50 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่า 1.40 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นเพียงแค่การรีบาวด์ธรรมดาๆ หลังจากราคาหุ้นรูดลงมาเป็นเวลานาน บวกกับนักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาลงทุนอีกรอบ เลยดูดีไปหมดเสียทุกอย่าง! แต่จะยืนระยะได้นานแค่ไหน? อันนี้ต้องติดตามดูกันเอาเองนะคะ
*ผิดกับในรายของ SCIของมันเห็นกันมาตั้งนานแล้วว่า “พื้นฐานดี อนาคตแจ่ม” แถมแรงเทขายก็สะเด็ดน้ำพอสมควร ที่แจ๋วไปกว่านั้นคือ P/Eอยู่แค่ 19.50 เท่า “โมนิก้า” ถึงมองการทะยานขึ้นมาปิดที่ 8.65บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 531 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการโหนกระแสอย่างไม่ต้องสงสัย ก็ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นใจให้สุดๆ จึงไม่ควรอิดออดไงล่ะค่ะ
*ดาวเด่นอีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” ชื่นชอบมานานพอสมควร และยังคงเป็นทางเลือกหลัก เมื่อบรรยากาศการลงทุนดีขึ้นก็คือ IRPC ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 4.44บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ทั้งที่ยอดเดิมก่อนหน้านี้เคยทำไว้ที่ 4.80 บาท เดี๊ยนถึงมองเป็นจังหวะไหลตามน้ำ เพราะทุกคนรู้ดีว่า งบปี 58 ทำกำไรระเบิดระเบ้อ ราคาหุ้นก็ควรไต่ระดับขึ้นไปอีกไงหล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ TPIPLหากมองวงรอบใหญ่ของการเคลื่อนตัวภายในระยะเวลา 1 ปี “โมนิก้า” ยอมรับว่า ไซเคิลของหุ้นเป็นแบบ side way downจากยอดสูงสุดที่เคยทำได้อยู่ที่ 3.60 บาท ถัดมาลดลงเหลือ 3.20 บาท ขณะที่ยอดล่าสุดเหลือแค่ 2.80 บาท ต่อจากนั้นหุ้นก็รูดลงยาว ก่อนจะย่ำฐานร่วมเดือนที่บริเวณ 2 บาท จู่ๆ หุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 2.12 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 6% เดี๊ยนถือเป็นความท้าทายของคนที่ชอบถือยาว เพราะต้องผ่านแนวต้าน 2.20 บาทขึ้นไปให้ได้เสียก่อน..ถึงจะมีสิทธิ์มองยอดถัดไปนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ PLANBมีแรงเทขายกดลงมาเรื่อยๆ แต่หุ้นยังพยายามเกาะฐานที่บริเวณ 6.50 บาทไว้อย่างเหนียวแน่น ขนาดเมื่อวันศุกร์โดนถล่มลงไปกองอยู่ที่ 6.30 บาท พอถึงช่วงท้ายตลาดกลับมีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.65 บาท บวกไป 0.05 บาท “โมนิก้า” ขอแสดงความเสียใจกับคนที่ปล่อยของออกไปโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ…ก็เซียนหุ้นรายใหญ่เขาย้ำเป็นประจำว่า “ของดี” แล้วจะทิ้งกันทำไม?…อิอิอิ
*อีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” ไม่ต้องให้ใครมาบอก แต่รู้ด้วยข้อมูลที่ปรากฏให้เห็น และยังเป็นหุ้นที่เม้าท์ให้ฟังบ่อยๆ ก็คือ BIGหลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และมีแนวโน้มจะทำผลงานได้ดีขึ้นไปอีก จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.83บาท บวกไป 0.12บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 220 ล้านบาท แถมเป็นการซื้อขายบนค่า P/E 16.50 เท่า..แบบนี้น่าเล่นไหมค่ะ
*ตบท้ายกันที่ขรัวเฒ่า “วิชัย ทองแตง” ควงแขน “อัฐ ทองแตง” เข้ามาเก็บหุ้น BLISSในปริมาณคนละ 8% กับ 5% ซึ่งสร้างความงุนงงให้กับนักเล่นหลายกลุ่ม เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า โอกาสที่จะพลิกฟื้นบริษัทเน่า ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และตัวคุณพี่ก็เคยได้รับประสบการณ์อันโหดร้ายจากหุ้นประเภทนี้มาหลายครั้งด้วยกัน “โมนิก้า” ขอถามหน่อยเถอะ!..ยังไม่เข็ดอีกเหรอค่ะ