ส่องอนาคต NewCo เมื่อควบ GULF-INTUCH

GULF และ INTUCH ของเจ้าสัว “สารัชถ์ รัตนาวะดี” สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ด้วยการประกาศดีลประวัติศาสตร์การควบรวมธุรกิจ


เส้นทางนักลงทุน

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ของเจ้าสัว “สารัชถ์ รัตนาวะดี” สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ด้วยการประกาศดีลประวัติศาสตร์การควบรวมธุรกิจระหว่างกัน และตั้งบริษัท NewCo ขึ้นมาใหม่

สาเหตุที่เจ้าสัวตัดสินใจเช่นนี้ เพราะมีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกออกจากการเป็นโฮลดิ้งคัมพานี และเพื่อลดความซ้ำซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้น ตลอดจนเป็นการต่อยอดโอกาสเติบโตในธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิทัล

การควบรวมครั้งนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่หลายฝ่ายจับตา เพราะจะทำให้มูลค่าของ NewCo หรือบริษัทใหม่ จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมายืนอยู่ระดับแถวหน้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีความแข็งแกร่งอย่างมาก จากปัจจุบัน GULF มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ราว 5.28 แสนล้านบาท ขณะที่ INTUCH มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 2.51 แสนล้านบาท

ดีลนี้มีอัตราส่วนในการจัดสรรหุ้น คือ 1 หุ้น GULF ต่อ 1.02974 NewCo, 1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.69335 NewCo (ไม่รวมหุ้นในบริษัทฯ ที่ถือโดย GULF โดยจะจัดสรรหุ้น NewCo ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ทุกรายยกเว้น GULF)

ทั้งนี้ NewCo จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วจำนวน 14,939,837,683 บาท แบ่งออกเป็น หุ้นสามัญจำนวน 14,939,837,683 หุ้น มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน การควบรวมสำเร็จ NewCo จะได้มาซึ่งหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC จำนวน 40.44% และหุ้นของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM 41.14% ซึ่งทำให้เข้าเกณฑ์ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ (VTO) ไม่ใช่เพื่อการเพิกถอน

โดยประเมินว่าราคา VTO หุ้น ADVANC อยู่ที่ราคา 216.30 บาทต่อหุ้น โดย Singtel Strategic Investments Pte. Ltd จะรับซื้อเพียงฝ่ายเดียวที่ 5% แรกที่มีการเสนอขาย จากนั้นจะเป็น INTUCH ฝ่ายเดียวอีก 5% และ GULF ฝ่ายเดียวอีก 5% หากเกินกว่านี้ ในช่วงมากกว่า 15% แต่ไม่เกิน 36% จะเป็นการรับซื้อในสัดส่วนเฉลี่ยกันระหว่าง 3 รายดังกล่าว

สำหรับราคา VTO หุ้น THCOM อยู่ที่ 11 บาทต่อหุ้น โดยจำนวนหุ้นไม่เกิน 55.86% GE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GULF ที่ GULF ถืออยู่ 99.99% และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ THCOM ที่ 41.14% จะเป็นผู้รับซื้อ ซึ่งในกระบวนการนี้จะเกิดในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567-ไตรมาส 1 ปี 2568

ทั้งนี้ INTUCH จะทำการจ่ายปันผลพิเศษจำนวน 4.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลรวมจำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท คาดจะมีการจ่ายออกในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 หลังขั้นตอนการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน แต่จะเกิดขึ้นก่อนการควบบริษัทจะดำเนินการแล้วเสร็จ โดยการจ่ายปันผลดังกล่าวจะไม่เปลี่ยนแปลง Swap Ratio สำหรับ NewCo

อย่างไรก็ตาม การยื่นคำขอให้รับหุ้นของ NewCo เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ของปี 2568

โบรกเกอร์ต่างขานรับดีลใหญ่นี้ โดยบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) มองภาพรวมของธุรกิจหลังการปรับโครงสร้าง NewCo จะประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) และกลายเป็นกลุ่มบริษัทพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการและดิจิทัลระดับภูมิภาค ซึ่งมีการแบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ 1.ธุรกิจพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค และ 2.ธุรกิจดิจิทัล

ในส่วนธุรกิจพลังงาน โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค จะประกอบไปด้วย ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ทั้งโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมถึงโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ เช่น โอมาน และสหรัฐฯ ขณะที่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์ ลม ขยะและพลังงานน้ำ ส่วนธุรกิจก๊าซฯ เช่น การจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติทางท่อ โครงการท่าเรือก๊าซและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว และการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค เช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง 1 ท่าเรือมาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง และระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและระบบผลิตน้ำเย็นแบบรวมศูนย์ให้กับโครงการ One Bangkok เป็นต้น

สำหรับธุรกิจดิจิทัล จะประกอบไปด้วย ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอัจฉริยะผ่านการถือหุ้นใน ADVANC และธุรกิจด้านดิจิทัลอื่น ๆ ภายใต้บริษัท Gulf Edge เช่น ธุรกิจโทรคมนาคมผ่านดาวเทียม ธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ธุรกิจ Data Center และธุรกิจ Cloud

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการควบรวม คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนของ GULF จะลดลงจาก 1.80 เท่า ในไตรมาส 1 ปี 2567 เป็น 1.42 เท่า หลังจากการควบรวมเสร็จสิ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจัดอันดับเครดิตอาจพิจารณาให้คะแนนที่สูงขึ้น สำหรับ NewCo ซึ่งปัจจุบัน GULF มีอันดับเครดิต A+ จากบริษัททริสเรตติ้ง

นอกจากนี้ คาดจะมีการเพิ่มรายได้ประมาณ 2 พันล้านบาทต่อปี คำนวณจากรายได้จากของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น 6 พันล้านบาท (การถือหุ้นใน ADVANC เพิ่มขึ้นจาก 19% เป็น 40%) หักค่าตัดจำหน่าย 4 พันล้านบาท และกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น 5 พันล้านบาทต่อปี

NewCo จะยังคงเน้นธุรกิจพลังงาน ซึ่งจะสร้างรายได้ 80% ของกำไรทั้งหมด ประเมินมูลค่าตลาดของ NewCo ที่ 6.47 แสนล้านบาท โดย 2.37 แสนล้านบาท มาจาก INTUCH และ 4.1 แสนล้านบาท จาก GULF หลังจากหักหุ้น 47% ใน INTUCH ยังประเมินราคาตลาดของ NewCo ที่ 44.3 บาทต่อหุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ชี้ว่าดีลนี้เป็นการรวมตัวของบริษัทพลังงาน และ ICT ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประเมินผลการดำเนินงาน NewCo อาจมีกำไรหลัก 2.39 หมื่นล้านบาท ในปี 2567 และ 2.72 หมื่นล้านบาท ในปี 2568 ขณะเดียวกันคาดราคาเป้าหมายของ NewCo จะอยู่ในช่วง 36.50-45.50 บาทต่อหุ้น โดยอิงจาก P/E ปี 2568 ที่ 20-25 เท่า

ทุกฝ่ายต่างมองบวกต่อดีลประวัติศาสตร์ครั้งนี้ งานนี้ถือว่าเจ้าสัว “สารัชถ์ รัตนาวะดี” มองเกมขาดจริง ๆ

Back to top button