ดัชนีนิเกอิและค่าเงินเยนของญี่ปุ่น

ดัชนีนิเกอิพุ่งขึ้น 2 วันติดกันกว่า 2,000 จุด ในขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 147 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากที่นายชินอิจิ อุจิดะ รองผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่าจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย


ดัชนีนิเกอิพุ่งขึ้น 2 วันติดกันกว่า 2,000 จุด ในขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 147 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากที่นายชินอิจิ อุจิดะ รองผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่าจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันหลังจากที่ปรับขึ้นมาแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

นายชินอิจิ อุจิดะ ออกมาสยบข่าวลือที่สร้างความสะเทือนขวัญต่อนักลงทุนที่ว่า BOJ จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปอีกเพื่อให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรจนดัชนีนิเกอิถดถอยลงมาต่ำกว่าระดับ 34,000 จุด

คำพูดของผู้บริหาร BOJ ทำให้เกิดแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหุ้นโตเกียวอีกครั้ง สะท้อนว่าตลาดหุ้นโตเกียวยังถูกครอบงำด้วยอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยของบีโอเจ ซึ่งถือเป็น  “มือที่มองเห็นได้”

เหตุผลที่บีโอเจต้องเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งส่งผลต่อตลาดหุ้นนั้นเป็นที่เข้าใจกันได้ดี เพราะอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินเยนนั้นมีผลต่อราคาหุ้นของบริษัทส่งออกของญี่ปุ่นอย่างรุนแรง

ที่ผ่านมาบริษัทส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้อาศัยอัตราค่าเงินเยนที่อ่อนกว่าค่าดอลลาร์สหรัฐเป็นเครื่องมือในการทำให้กำไรของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น และส่งผลขาดทุนในงบการเงินของบริษัทถ้าหากเงินเยนแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่บีโอเจเข้าใจ และเข้ามาแทรกแซงค่าเงินเยนให้อ่อนลง จากระดับ 135 เยนต่อดอลลาร์ขึ้นมาที่ระดับ 155 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งนโยบายนี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์เงินเลวไล่เงินดีของญี่ปุ่นเสมอมา

นอกจากนั้นบีโอเจยังมีไม้เด็ดอีกอันหนึ่ง คือมาตรการผ่อนคลายทางการเงินหรือ QE ที่ยังไม่ยอมยกเลิกตามอย่างสหรัฐฯ หรือสหภาพยุโรป

มาตรการ QE คือมาตรการที่อนุญาตให้บีโอเจใช้อำนาจในการแทรกแซงตลาดเงินด้วยการพิมพ์ธนบัตรเพิ่ม เพื่อให้เงินเยนอ่อนค่าลงเรื่อย ๆ ทั้งที่มาตรการดังกล่าวสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกไปแล้วเมื่อสองปีที่ผ่านมา และสหภาพยุโรปก็ประกาศยกเลิกเมื่อปีที่ผ่านมา ในขณะที่ญี่ปุ่นยังคงใช้นโยบายนี้ต่อไปอย่างไม่สมเหตุสมผล ทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงไปมาก

เดือนที่ผ่านมาบีโอเจได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกทำให้กระแสของนักลงทุนรายใหญ่คาดเดาว่าบีโอเจกำลังจะเปลี่ยนนโยบายเลิกแทรกแซงตลาดเงินโดยทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นมา แต่การที่รองผู้ว่าการบีโอเจออกมาสยบข่าวลือ ถือเป็นการตอกย้ำตลาดให้มีความเชื่อมั่นว่าบีโอเจจะยังไม่เปลี่ยนนโยบาย ที่ทำให้เกิดแรงซื้อกลับในตลาดหุ้นและทำให้ดัชนี Nikkei พุ่งพรวด และค่าเงินเยนกลับไปอ่อนค่าลง

ถึงแม้ว่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงถึงขั้นอ่อนทะลุจุดต่ำสุดของค่าเงินก่อนที่จะหยุดชะงักชั่วคราวและจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้  แต่ท่าทีของบีโอเจ ทำให้ไม่สามารถวางใจได้ว่าค่าเงินเยนจะหยุดอ่อนค่าลงไปจนเป็นสถิติใหม่อีกหรือไม่ ยังคงไม่อาจคาดเดา เพราะข้ออ้างของบีโอเจนั้นบอกให้รู้ว่า จุดเปราะบางของสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยของค่าเงินเยนเป็นสำคัญ ไม่ใช่ด้วยหลักการเรื่อง cost competitiveness แต่อย่างใด

จุดเปราะบางเช่นนี้ ถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการแข่งขันของสินค้าญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับสินค้าของจีนและเกาหลีใต้

วิษณุ โชลิตกุล

Back to top button