BBIK–BE8 สายซิ่งสะดุด.!

ช่วงต้นปี 2567 หุ้นเทคฯ เป็นหุ้นที่โดดเด่นสุด วิ่งแรงยกกลุ่ม...ผลพวงมาจากตลาดหุ้น Nasdaq ออลไทม์ไฮแล้วออลไทม์ไฮอีก


ช่วงต้นปี 2567 หุ้นเทคฯ เป็นหุ้นที่โดดเด่นสุด วิ่งแรงยกกลุ่ม…ผลพวงมาจากตลาดหุ้น Nasdaq ออลไทม์ไฮแล้วออลไทม์ไฮอีก หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ วิ่งกันระเบิดเถิดเทิง นำโดยพี่ใหญ่ Nvidia ที่พุ่งแรงแซงทางโค้ง เลยทำให้หุ้นเทคฯ ตัวอื่น ๆ เฮละโลตามไปด้วย…

จากกระแสหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ ฟีเวอร์…ถูกหยิบโยงมาสู่หุ้นเทคฯ ไทย เลยทำให้หุ้นกลุ่มนี้พลอยฟ้าพลอยฝนปรับขึ้นแรงกันถ้วนหน้า อย่างบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK กับบริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 กลายเป็น 2 หุ้นเทคที่โดดเด่นสุดในตลาด mai ขนาดที่ว่าติดท็อป 5 ในหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสุงสุดใน mai เชียวนะ..!!

แต่พักหลังมานี้ หุ้นเทคฯ ทั้ง 2 ตัวราคาสาละวันเตี้ยลงเรื่อย ๆ โดย BBIK จากเดิมราคาทะลุ 100 บาท ย่อลงมาเหลือ 31 บาทเศษ ฟาก BE8 จากราคา 30 บาทเศษ ก็เหลือแค่ 12 บาทเศษเท่านั้น…ท่ามกลางความกังวลว่างบจะออกมาไม่ดี

จากหุ้นสายซิ่ง…เลยเปลี่ยนมาเป็นสายย่อซะงั้น..!?

แต่จะว่าไปแล้วราคาที่ย่อลงมาก็สมเหตุสมผลนะ เพราะดูจากงบไตรมาส 2/2567 ของทั้งสองบริษัทไม่โตจริง ๆ แฮะ…กำไรไม่โตไม่พอ ดันมาลดอีกต่างหาก..!!

เริ่มที่ BBIK กำไรสุทธิอยู่ที่ 41.26 ล้านบาท ลดลง 38.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 67.02 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้เติบโตไม่ถึงตามเป้าที่วางไว้ โดยมีรายได้บริการและการขายอยู่ที่ 339.25 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้บริการและขายอยู่ที่ 339.75 ล้านบาท

ส่งผลให้งวดครึ่งปีแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 110.26 ล้านบาท ลดลง 11.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 125.28 ล้านบาท โดยมีรายได้บริการและขายอยู่ที่ 708.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้บริการและขาย 606.58 ล้านบาท

ส่วน BE8 ชะตากรรมไม่แตกต่างกัน กำไรสุทธิเหลือแค่ 34.57 ล้านบาท ลดลง 47.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 67.51 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 608.50 ล้านบาท ลดลง 3.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 631.22 ล้านบาท

ส่งผลให้งวดครึ่งปีแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท ลดลง 46.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 124.31 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,178.83 ล้านบาท ลดลง 3.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 1,217.22 ล้านบาท

ถ้าให้วิเคราะห์ปมเหตุที่ทำให้กำไร BBIK และ BE8 ย่อตัวลง อาจเป็นเพราะด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องรัดเข็มขัด ชะลอโครงการที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน หนึ่งในนั้นคงเป็นการเลื่อนทรานส์ฟอร์มธุรกิจไปสู่ยุคดิจิทัลละมั้ง…ประกอบกับงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า กว่าจะมีผลบังคับใช้ก็ล่วงเลยมาปลายเดือน เม.ย. 2567 ทำให้บริษัทที่พึ่งพาโครงการภาครัฐต้องร้องเพลงรอร๊อรอกันไป…

จากสองปัจจัยข้างต้น เลยทำให้หุ้นสายเทคฯ ไม่เติบโตเหมือนแต่ก่อน…

แล้วที่ผ่านมาสองบริษัทนี้อาศัยการเติบโตแบบอินออร์แกนิก ไปเทกกิจการอื่น หรือ M&A กันว่าเล่น…อย่าง BBIK ไปซื้อบริษัท อินโนวิซ โซลูชั่น จำกัด (Innoviz) ทำธุรกิจการให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาระบบ ERP และบริษัท วัลแคน ดิจิทัล เดลิเวอรี่ จำกัด (VDD) ประกอบธุรกิจการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และแอปพลิเคชัน และอื่น ๆ ตามมาอีก

ฟาก BE8 ไปซื้อบริษัท เบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด (เบย์คอม) ผู้นำ Cyber Security อันดับต้น ๆ ของประเทศ ตามด้วยซื้อหุ้นบริษัท วานิลลา แอนด์ เฟรนด์ จำกัด (Vanilla) ทำธุรกิจที่ปรึกษาการทำ Branding และการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร และซื้อหุ้นบริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อเทคโนโลยีและธุรกิจออนไลน์ที่นำเสนอคอนเทนต์เพื่อวงการ Tech เป็นต้น

ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น ในขณะที่ income ยังได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นเอง

สรุปว่ารายได้ลดไม่พอ…ยังมีต้นทุนจากดีล M&A งอกขึ้นมาอีก ที่เป็นตัวบั่นทอนกำไรของทั้งสองบริษัท…

ทั้งหมดทั้งมวลเลยทำให้ BBIK และ BE8 กลายเป็นสายย่อย่อทั้งกำไรและราคาหุ้น..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button