อยู่อย่างลำบากยิ่งขึ้น

การยุบพรรคและการถอดถอนนายกรัฐมนตรีโดยง่ายดาย สะท้อนออกได้อย่างหนึ่งว่า ประเทศไทยคงไม่สามารถสลัดตัวออกจากกับดักการเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเจริญเติบโตช้าได้ง่ายดายนัก


การยุบพรรคและการถอดถอนนายกรัฐมนตรีโดยง่ายดาย สะท้อนออกได้อย่างหนึ่งว่า ประเทศไทยคงไม่สามารถสลัดตัวออกจากกับดักการเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเจริญเติบโตช้าได้ง่ายดายนัก เพราะล้าหลังทางการเมืองมาก

เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าระดับ 2% ต่อเนื่องกันมากว่าสิบปีแล้ว ในขณะที่เพื่อนบ้านในอาเซียนอาทิ เวียดนาม อินโดเนเซีย ฟิลิปินส์ ฯลฯ เติบโตกันในระดับ 5% ขึ้นไปทั้งสิ้น

เกือบ 2 ทศวรรษมาแล้ว บ้านเมืองมีแต่ความแตกแยก สงครามสีไม่มีวันสงบ มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง ช่วงพล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจเผด็จการยาวนานที่สุด ซึ่งก็เป็นช่วงที่ประเทศไทยพลาดโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างยาวนานเช่นกันมาด้วย

ประเทศไทยไม่สามารถจะปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอันเป็นสิ่งท้าทายใหม่ ๆ ได้เลย

อุตสาหกรรมหลักที่เคยทำรายได้เข้าประเทศเช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่เมื่อก่อนสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นชาติผู้นำเข้าและเป็นลูกค้าหลักของไทย แต่เดี๋ยวนี้จีนกลายสถานะเป็นชาติผู้ส่งออก นอกจากจะไม่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากไทยแล้ว ยังส่งออกไปตีตลาดดั้งเดิมของไทยด้วย

อุตสาหกรรมเสื้อผ้า ที่จีนผลิตได้มากกว่าและถูกกว่า เช่นกางเกงลำลองตัวละ 10-15 บาท กางเกงยีนส์ตัวละ 70 บาท จีนก็ส่งขายเข้ามาล็อตใหญ่ทางออนไลน์ และระบบโลจิสติกส์ที่พรักพร้อมสะดวกง่ายดาย ในขณะที่รัฐบาลไทยไม่มีมาตรการควบคุมคุณภาพสินค้าเช่นอย.หรือมอก.ใด ๆ เลย แถมยังไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้อีกด้วย

อุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าในประเทศจะอยู่กันได้อย่างไร คงต้องล้มหายตายจากกันในเร็ววันนี้

ในทางการเมืองนั้น ความสัมพันธ์ระหว่าง 3 อำนาจอธิปไตยอันมีฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ไม่มีดุลยภาพมากนัก

อำนาจตุลาการมีอำนาจเหนือนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารมากเกิน!

ก็ดูจากผลงานการยุบพรรคและการถอดถอนฝ่ายบริหารที่ผ่านมา อดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ถูกถอดถอนเพราะทำกับข้าวโชว์ทางทีวี อันเข้าเกณฑ์ลูกจ้างตามพจนานุกรม

อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ถูกถอดถอนเพราะย้ายข้าราชการคนหนึ่งไม่เป็นธรรม ซึ่งใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องโยกย้ายและแต่งตั้งคนที่ตัวเองไว้ใจมานั่งในตำแหน่งสำคัญด้วยกันทั้งนั้น

โครงการ 2 ล้านล้าน สร้างอนาคตประเทศไทย ก็ถูกตีตกว่าขัดรัฐธรรมนูญ ไม่อาจดำเนินการต่อไปได้เพราะถนนลูกรังยังไม่หมดไปจากประเทศไทย

ซึ่งต่อมาก็มีข้อเท็จจริงว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สามารถสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคายได้ ไม่เห็นจะถูกเตะสกัดแต่ประการใด

กรณีถอดถอนเศรษฐา ทวีสิน ด้วยข้อหาไม่แสดงความสุจริตเชิงประจักษ์ในการแต่งตั้งบุคคลผู้มีมลทินเป็นรัฐมนตรี ก็เป็นข้อหาครอบจักรวาลมาก

น่าเสียดายผลงานอดีตนายกฯ เศรษฐาในเรื่องของการท่องเที่ยว งานปราบปรามยาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังเข้าที่เข้าทาง งานออกมาตรการควบคุมสินค้าจีนทุ่มตลาด โดยไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ และการเจรจาแหล่งปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อนไทย-เขมรเพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกัน

ส่วน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ก็น่าเชื่อว่าคงจะยุติไปพร้อมกับอดีตนายกฯ เศรษฐา เพราะขืนทำไปก็คงจะถูกเครื่องจักรสังหารแน่นอน

อำนาจตุลาการล้นฟ้าเช่นนี้ ฝ่ายบริหารทำงานลำบากแน่นอน ประเทศไทยคงติดกับดักประเทศเจริญเติบโตต่ำต่อไปอีกนาน

ชาญชัย สงวนวงศ์

Back to top button