EA เก่าหาย..ใหม่หด.!
การปรับพอร์ตขายหุ้น EA ของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา ถูกติฉินนินทากันว่า เป็นเพราะเห็นเค้าลางในงบการเงินไม่ดีหรือเปล่า..??
การปรับพอร์ตขายหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา (คงไม่ต้องเอ่ยชื่อเนอะว่าเป็นไผ…รู้ ๆ กันอยู่แล้ว) ถูกติฉินนินทากันว่า เป็นเพราะเห็นเค้าลางในงบการเงินไม่ดีหรือเปล่า..?? เลยขายหุ้นออกมา
ส่วนจะจริงเท็จประการใด…คงมีแต่ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่เท่านั้นที่ตอบได้ดีสุด..!!
ที่แน่ ๆ เห็นประจักษ์ชัดในงบไตรมาส 2/2567 ซึ่งกำไรสุทธิลดลงฮวบฮาบเหลือแค่ 541.74 ล้านบาท ปรับลดลง 1,618.52 ล้านบาท หรือลดลง 74.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,160.26 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,487.75 ล้านบาท ปรับลดลง 3,468.51 ล้านบาท ลดลง 43.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 7,956.26 ล้านบาท
ส่วนงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,430.44 ล้านบาท ปรับลดลง 3,049.58 ล้านบาท ลดลง 68.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,480.02 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 10,368.81 ล้านบาท ปรับลดลง 6,491.61 ล้านบาท ลดลง 38.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 16,860.42 ล้านบาท
กำไร EA ที่หายไปเกินครึ่งนั้น มีสาเหตุหลักมาจากธุรกิจเก่า อย่างธุรกิจโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจเดินรถไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ ประสบปัญหารายได้ลดลงอย่างชัดเจน
ถ้าให้แจกแจงเริ่มจากธุรกิจโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน…โรงไฟฟ้าหลาย ๆ แห่ง Adder ทยอยหมดไปเรื่อย ๆ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่ง Adder หมดไปตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2566 คิดเป็นรายได้หายไปราว 345 ล้านบาท เลยทำให้รายได้จากค่าไฟฟ้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
แม้มีโรงไฟฟ้าพลังงานลมเข้ามาหนุน แต่ก็ไม่สามารถชดเชยรายได้จากค่าไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มได้ ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2567 รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียนหายไป 14.9% เหลือแค่ 472.23 ล้านบาท ส่วนงวดครึ่งแรกปี 2567 มีรายได้อยู่ที่ 5,263.53 ล้านบาท ปรับลดลง 1,414.53 ล้านบาท หรือลดลง 21.2%
ส่วนธุรกิจไบโอดีเซล แม้ยังเห็นการเติบโต แต่โตแบบกะปริบกะปรอย ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อพอร์ตรายได้ของ EA
ฟากธุรกิจใหม่ทั้งธุรกิจรถไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ และธุรกิจแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่เป็นความหวังของหมู่บ้าน ก็ไม่ได้สดใสเหมือนอย่างที่คิด…ธุรกิจเดินรถไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ การส่งมอบรถไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในไตรมาส 2/2567 ส่งมอบรถได้แค่ 32 คัน (เป็นรถโดยสารไฟฟ้า 12 คัน และรถหัวลากไฟฟ้า 20 คัน) ลดลง 623 คัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดการส่งมอบรถอยู่ที่ 655 คัน ส่งผลให้มีรายได้อยู่ที่ 420.21 ล้านบาท ลดลง 3,092.22 ล้านบาท หรือลดลง 88.0%
ส่วนในช่วงครึ่งแรกปี 2567 มีการส่งมอบรถทั้งสิ้น 382 คัน แบ่งเป็น รถโดยสารไฟฟ้า 180 คัน รถหัวลากไฟฟ้า 200 คัน และรถไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ 2 คัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดการส่งมอบรถรวมทั้งสิ้น 1,445 คัน
ด้านธุรกิจแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน รายได้หายไปเยอะ ในไตรมาสนี้มีรายได้อยู่ที่ 513.41 ล้านบาท ปรับลดลง 1,084.81 ล้านบาท หรือลดลง 67.9% เนื่องจากปริมาณจําหน่ายแบตเตอรี่ลดลง สอดคล้องกับการผลิตและจําหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าที่ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับราคาจําหน่ายเฉลี่ยที่ลดลงตามราคาตลาดโลก โดยราคาขายอยู่ที่ 6,646 บาทต่อหน่วย เทียบกับไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 7,753 บาทต่อหน่วย
ส่งผลให้ในครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้อยู่ที่ 1,093.98 ล้านบาท ลดลง 1,870.65 ล้านบาท หรือลดลง 63.1%
กลายเป็นว่า ธุรกิจเก่าก็หาย…ธุรกิจใหม่ก็หดนะเนี่ย
ที่น่าสนใจ จากปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก จะทำให้ EA มีปัญหาในการรันธุรกิจเดินรถไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ รวมถึงธุรกิจแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนหรือเปล่า..?? เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูง
แล้วอย่าลืมว่า รายได้ที่เป็น Recurring Income หรือรายได้ประจำจากธุรกิจโรงไฟฟ้าราว 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ถูกนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันให้กับเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันและเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันให้กับเจ้าหนี้หุ้นกู้ไปแล้ว ก็จะเหลือเงินไม่มากที่เข้าบริษัท EA จะมีความเสี่ยงในการรันธุรกิจหรือเปล่า..?? อันนี้ก็น่าคิด
ว่าไตรมาส 2/2567 ไม่ดีแล้ว..?? ไตรมาส 3/2567 และไตรมาสต่อ ๆ ไปล่ะจะเป็นอย่างไร..?? ไม่อยากจะเซด…
แต่ตอนนี้สงสัยต้องโกยแล้วล่ะโยม..!?
…อิ อิ อิ…