SUPER พิษขาดทุน FX.!
ถ้าจะบอกว่า SUPER ของ “เฮียจอมทรัพย์ โลจายะ” เป็นหนึ่งในหุ้นที่โชคดีในแง่ตัวธุรกิจ ก็คงไม่ได้กล่าวเกินจริง...
ถ้าจะบอกว่า บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ของ “เฮียจอมทรัพย์ โลจายะ” เป็นหนึ่งในหุ้นที่โชคดีในแง่ตัวธุรกิจ ก็คงไม่ได้กล่าวเกินจริง…เป็นธุรกิจฟ้าประทานในเรื่องของวัตถุดิบ นั่นคือแสงแดดและสายลม (โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม และโรงไฟฟ้าพลังงานลม หรือวินด์ฟาร์ม) จะผันแปรไปตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นคนกำหนดชะตาชีวิต..!!
แต่ด้วยการลงทุนของ SUPER ไม่ได้ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเอง แต่ใช้วิธีโตทางลัดไปซื้อโรงไฟฟ้าที่กำลังจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) หรือไม่ก็ COD อยู่แล้ว
ข้อดี…ไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ เพราะซื้อปุ๊บ…รับรู้รายได้ปั๊บ
แต่ข้อเสีย…ต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงปรี๊ดดด..!!
ส่งผลให้ SUPER เป็นบริษัทที่มีภาระหนี้เยอะ ทั้งหนี้ในประเทศและหนี้ต่างประเทศ
โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทมีหนี้สินรวมอยู่ที่ 61,129.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,371.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.30% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 เนื่องจากมีการเบิกเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินสกุลต่างประเทศ เพื่อชำระค่าสินค้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการ Bac Lieu Wind Power ที่ประเทศเวียดนาม จำนวน 1,010.45 ล้านบาท ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้เงินกู้ยืมระยะสั้นสกุลดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 827.23 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 303.07 ล้านบาท จากการซื้ออุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า และจากโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา
ขณะที่ ความผันแปรของค่าเงินมีผลต่อ SUPER อย่างมีนัยสำคัญ…
เห็นได้ชัดจากงบไตรมาส 2/2567 ที่มีตัวเลขขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือขาดทุน FX ทั้งในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินเวียดนามดอง ปาไป 500.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 537.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,462.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 36.75 ล้านบาท
ไม่แค่นั้น ยังมีต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จำนวน 968.59 ล้านบาท ซ้ำเติมอีก
เลยเป็นที่มาของตัวเลขบรรทัดสุดท้ายในไตรมาส 2/2567 ติดลบไป 345.84 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 66.71 ล้านบาท และงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 พลิกมาขาดทุนสุทธิ 190.66 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 582.12 ล้านบาท
แต่ถ้าตัดสองรายการนี้ออกไป ผลงานในไตรมาส 2/2567 ของ SUPER ก็ไม่ขี้เหร่นะ เพราะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,030.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.90 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 859.46 ล้านบาท
โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 2,465.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.17% หลัก ๆ มาจากรายได้จากโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มขึ้น 35.71% รายได้จากธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้น 6.81% และอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 15.01% ขณะที่รายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มลดลง 0.61% ส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าวินด์ฟาร์มลดลง 0.02% รายได้จากธุรกิจน้ำประปาและน้ำดิบลดลง 9.69%
แหม…เสียดายจัง เฮ่อ…เสียดายจัง..!!
ไม่งั้นก็คงได้เห็นกำไรงาม ๆ ของ SUPER ไปแล้ว…
ส่วนถ้ามองข้ามชอร์ตไปที่ไตรมาส 3/2567 จะซ้ำรอยไตรมาส 2/2567 อ๊ะป่าว..?? ก็ไม่แน่นะวิ อย่าลืมว่าต้นช่วงไตรมาส 3 ค่าเงินบาทก็อ่อนปวกเปียก เพิ่งจะมาแข็งโป๊กเอาเมื่อไม่กี่วันมานี้เองนะ…
เอาน่า…อย่างน้อย ๆ การเห็น SUPER นำเงินที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท ทานตะวัน โซล่าร์ จำกัด (SUNFLOWER) ไปล้างหนี้แบงก์มาหมาด ๆ จำนวน 3,366.93 ล้านบาท ก็น่าจะทำให้ SUPER ตัวเบาขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย…
เกรงแต่ว่า SUPER อาจมีความจำเป็นต้องก่อหนี้ใหม่เพิ่มอีกน่ะสิ…ก็จะเป็นกงเกวียนกำเกวียนไม่จบไม่สิ้น ฉุดให้หุ้น SUPER เป็นหุ้นไม่เต็มบาทไปอีกนาน…
…อิ อิ อิ…