ดัชนีขึ้นได้แค่ไหน

วานนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ บวกร้อนแรง

ปิด 1,323.38 จุด + 20.38 จุด เปลี่ยนแปลง +1.56%

ส่วนมูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นมากว่า 62,350 ล้านบาท (ไม่รวมบิ๊กล็อต SCCC)

ดัชนีหุ้นไทยถือว่าปิดบวกต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่เพิ่มขึ้น 13.16 จุด เท่ากับว่ารวม 2 วัน (ทำการ) ดัชนีพุ่งขึ้นมา 33.50 จุด

คำถามคือ วันนี้ (20 ส.ค.) ดัชนีจะไปต่อหรือเปล่า

หากขึ้นต่อ แล้วจะวิ่งไปได้แค่ไหน

ต้องย้อนกลับมาดูเหตุของการปรับขึ้นหุ้นไทยในรอบล่าสุดก่อนว่ามาจากอะไร

เริ่มจาก 1.ความชัดเจนทางการเมืองที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

2.เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ต่างชาติวกกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย อย่างวานนี้หลังหักดีล SCCC ต่างชาติซื้อประมาณ 1.5 พันล้านบาท

3.รัฐบาลยืนยันว่า กองทุนวายุภักษ์เดินหน้าต่อ ซื้อทั้งหุ้นบิ๊กแคป หุ้นกลางและเล็ก

4.แนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาลง เริ่มมีความชัดเจนขึ้นทั้งของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของประเทศไทย

5.ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 โต 2.3% มากกว่าที่คาดกันไว้

6.ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เห็นการฟื้นตัวจากปัจจัยที่บอกมา ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่ง

ย้อนกลับมาสู่คำถามที่ว่า แล้วดัชนีจะไปถึงไหนกันล่ะ

หากดูสัญญาณทางเทคนิค

ระดับ 1,330 จุดเป็นแนวต้านที่ผ่านค่อนข้างยาก ถึงยากมาก ๆ

ก่อนหน้านี้ (หลังหลุด 1,330 จุด) ดัชนีขึ้นมาทดสอบที่ 1,330 จุดอยู่หลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้

ส่วนรอบนี้คงต้องมาลุ้นกัน

แม้ว่าจะมีปัจจัยหนุนเพิ่มเข้ามา แต่อย่าลืมว่า หุ้นขึ้นมาในครั้งนี้ ในด้านของปัจจัยทางการเมืองนั้น แม้จะมีชัดเจนขึ้นได้รวดเร็วเกี่ยวกับรัฐบาลชุดใหม่

แต่หากเกิดการ “สะดุด” เช่น ความล่าช้าการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี การดำเนินนโยบายมาตรการต่าง ๆ 

หรือมาตรการมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยฯ เชิงลบ

ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจจะวูบลงมาอีกได้

มีการประเมินว่า หากดัชนีติดแนวต้าน 1,330 จุด แล้วความก้าวหน้าทางการเมืองเกิดความล่าช้า

ดัชนีอาจจะมีการย่อตัวลงมาเพื่อ “พักฐาน” ก่อนเพื่อรอความชัดเจนอีกครั้ง แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกอื่น ๆ เข้ามาสนับสนุน

แต่ (สมมุติ) การย่อตัวลงมารอบล่าสุด น่าจะมีดาวน์ไซด์ค่อนข้างจำกัด

เหตุผลเพราะว่ามีหุ้นขนาดใหญ่เตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และจะทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD ในช่วงปลายเดือนสิงหาฯ ไปจนถึงก่อนกลางเดือนกันยายนนี้

สรุปแล้ว ดัชนี อาจจะพอขึ้นได้อีกบ้าง แต่ไม่น่าผ่านแนวต้าน

หรือหากย่อตัวลงมา ระดับแนวรับ 1,330 จุด น่าจะพอรับไหว

ทำให้ดัชนีในช่วงสั้น อาจจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,290-1,330 จุด โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจคือ ธีมปันผลระหว่างกาล หุ้นกลุ่มธนาคารและไฟแนนซ์

และรวมถึงหุ้นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์

ธนะชัย ณ นคร