บาทแข็งกับทุนเก็งกำไร

และแล้วค่าเงินบาทก็ถึงเวลาแข็งค่าขึ้นในรอบ 8 เดือน ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้น SET ก็แข็งขึ้นมาที่เหนือ 1,330 จุด อย่างรวดเร็ว


และแล้วค่าเงินบาทก็ถึงเวลาแข็งค่าขึ้นในรอบ 8 เดือน ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้น SET ก็แข็งขึ้นมาที่เหนือ 1,330 จุด อย่างรวดเร็ว เนื่องจากทุนเก็งกำไรหรือฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยโดยไม่ทราบสาเหตุ

การไหลเข้ามาของฟันด์โฟลว์เกิดขึ้นหลังจากประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองความชอบธรรมของรัฐบาลชุดใหม่ แม้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะยังเต็มไปด้วยสูตรคณิตศาสตร์การเมืองของเก้าอี้ดนตรีก็ตาม

เมื่อเช้าวานนี้ค่าเงินบาทได้เกิดแข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยเปิดตลาดที่ระดับ 34.10-34.15 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่ามากสุดในรอบ 8 เดือน มีโอกาสแตะ 33.90 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน โดยเมื่อคืนนี้ยังไร้ปัจจัยใหม่ คาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าหลังจากวันศุกร์นี้ ที่จะมีงานสัมมนาเชิงวิชาการที่เมือง Jackson Hole ซึ่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงทิศทางดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสที่เงินบาทจะไปแตะ 33 บาท/ดอลลาร์ได้

สําหรับวันนี้ตลาดรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ หาก เป็นไปตามตลาดคาด คาดว่าจะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าได้ในระยะสั้น ๆ เนื่องจากตลาดรับรู้ไปก่อนหน้านี้แล้วว่า กนง. น่าจะไม่ปรับลดดอกเบี้ยหากเฟดยังไม่ลด

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่าจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะยังผลให้ตลาดหุ้นเดินหน้าบวกต่อ ที่จะกลายเป็นข่าวดีสำหรับรัฐบาลนางสาวแพทองธารโดยปริยาย

เหตุผลที่เงินฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอาจจะดูคลุมเครือแต่ก็ช่วยให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้นชั่วคราว  เงินฟันด์โฟลว์ที่รับรองสถานภาพชั่วคราวนี้ก็เปรียบได้กับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของรัฐบาลชุดนี้ที่อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีบรรยากาศที่ดีจากตลาดหุ้นรองรับอยู่

เพียงแต่แรงสนับสนุนจากฟันด์โฟลว์ยังมีขีดจำกัดที่อาจจะส่งผลต่อขาขึ้นของตลาดหุ้นให้ไปได้ไม่ไกลนักถ้าหากว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังคงยักแย่ยักยัน และราคาหุ้นยังต่ำกว่าบุ๊คแวลูเกลื่อนตลาดจนกระทั่งมาร์เก็ตแค็ปหดหาย

การแข็งค่าของเงินบาทและขาขึ้นชั่วคราวของตลาดหุ้นจึงเป็นมายามากกว่าความเป็นจริง ที่นักลงทุนต้องเข้าใจและรู้เท่าทัน

วิษณุ โชลิตกุล

Back to top button