ASW แตกตา..เติมกิ่ง

ถ้าให้เฟ้นหาหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่โชว์กำไรโดดเด่นในยามนี้ คงหนีไม่พ้นบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ของ “เฮียกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์”


ถ้าให้เฟ้นหาหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่โชว์กำไรโดดเด่นในยามนี้ คงหนีไม่พ้นบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ของ “เฮียกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์” ซึ่งผลงานไตรมาส 2/2567 ฟาดกำไรสุทธิไป 593.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 278.19% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 156.81 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการ 2,765.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 1,250.49 ล้านบาท

สาเหตุมาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเพิ่มขึ้น 115.47% มาอยู่ที่ 2,552.70 ล้านบาท ในขณะที่มีรายได้จากการเช่าและบริการ 212.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.05% โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าบริหารจัดการโครงการจากกิจการร่วมค้า 155.03 ล้านบาท

ส่งผลให้ช่วงครึ่งปีแรกปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 849.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.30% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 439.79 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (New High) และมีรายได้จากการขายและบริการ 4,499.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.24% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,861.76 ล้านบาท

นอกจากโชว์งบสวยแล้ว ASW ยังมีความเคลื่อนไหวในมุมธุรกิจที่น่าสนใจ จากการแตกแขนงไปสู่ธุรกิจด้านการเงินและการลงทุน ผ่านการจัดตั้งบริษัทใหม่เอี่ยมอ่องที่ชื่อ บริษัท ไวส์ เอสพีวี 1 จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท

ว่าไปแล้วการไดเวอร์ซิฟายธุรกิจของกลุ่มอสังหาฯ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร…ที่ผ่านมาก็เห็นหลาย ๆ ค่ายทำกัน อย่างบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ของ “เฮียตึ๋ง–อนันต์ อัศวโภคิน” หันไปทำห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ โรงแรม ธุรกิจนายหน้าประกัน เพื่อสร้าง Recurring Income หรือรายได้ประจำ

ฟากบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ของ “เจ้าสัวทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” แตกไลน์ไปในธุรกิจสุขภาพ ด้วยการสร้างโรงพยาบาลวิมุต ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ของ “เฮียพีระพงศ์ จรูญเอก” แตกไลน์ไปหลาย ๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมและการบริการ ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจโลจิสติกส์ มิหนำซ้ำยังเล่นท่ายากด้วยการรุกสู่ธุรกิจบันเทิงอีกต่างหาก…อันนี้ไม่รู้ปังหรือแป้ก…เพราะข่าวคราวเงียบหายไปเลย

ด้านบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA หันไปทำธุรกิจให้บริการเช่าคลังสินค้า และธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า และธุรกิจโซลาร์เซลล์ ส่วนบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ขยายไลน์ไปสู่ธุรกิจสำนักงานเช่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจโรงแรม

นี่หยิบยกมาแค่บางส่วนเท่านั้น…ยังมีอีกหลาย ๆ ค่ายที่พยายามไดเวอร์ซิฟายธุรกิจเพื่อความอยู่รอด

อ้อ…ถ้าให้แจกแจงต้นสายปลายเหตุ ภาพที่เห็นก็ประจักษ์ชัดแล้วว่า ทุกวันนี้ขายบ้านขายคอนโดฯ ยากขึ้น นอกจากดีมานด์จะหดหายไปตามกำลังซื้อที่อ่อนแอ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวแล้ว ที่แย่ไปกว่านั้นยังมียอดปฏิเสธสินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัยของแบงก์พุ่งปรี๊ดดดอีกต่างหาก เลยทำให้ค่ายอสังหาฯ ต้องพยายามดิ้นรนหนีตายอย่างที่เห็น…

กลับมาที่ ASW ซึ่งกำลังแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจด้านการเงินและการลงทุน น่าคิดว่าเป็นรูปแบบไหน..?? เป็นลักษณะการปล่อยสินเชื่อ หรือยังไง..?? แล้วจะทำเองหรือไปร่วมลงทุนกับใครอ๊ะป่าว..!? ยังไม่ชัดเจน

ขณะที่ “เฮียกรมเชษฐ์” บอกว่า “ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดหรือสรุปข้อมูลได้”

แหม๊…ลับ ๆ ล่อ ๆ อย่างนี้ ยิ่งกระตุกต่อมอยากรู้อยากเห็นนะเนี่ย

สุดท้ายธุรกิจการเงินที่ว่าหน้าตาจะเป็นยังไง..?? ต้องติดตามกันต่อไป

ถ้าดูจากโครงสร้างธุรกิจ ASW ซึ่งปัจจุบันแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1)ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย และ 2)ธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งแยกย่อยเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก ธุรกิจการดูแลสุขภาพ ธุรกิจการบริหารจัดการทรัพย์สิน ธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและการสร้างกิจการ ธุรกิจอีเวนต์คอนเสิร์ต & ออแกไนเซอร์ และกลุ่มธุรกิจการพัฒนาที่มุ่งเน้นใน จ.ภูเก็ต ดำเนินการภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE

เอ๊ะ…หรือจะเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลป๊ะเนี่ย..?? อันนี้ก็ไม่รู้สินะ

แต่เห็น ASW ทำการแตกตา…เติมกิ่งธุรกิจอย่างนี้ คงช่วยสร้างการเติบโตได้ไม่มากก็น้อยแหละ

จากที่เห็นกำไรโตดีอยู่แล้ว…คงโตวันโตคืนขึ้นไปอีกใช่ปะคะ “เฮียกรมเชษฐ์” ขาาา…

…อิ อิ อิ…

Back to top button