รีบาวด์ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง

ตลาดหุ้นรีบาวด์ได้ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงเต็มไปหมด โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีตัดสินนายกรัฐมนตรีเศรษฐาสิ้นสุดลง


ตลาดหุ้นรีบาวด์ได้ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงเต็มไปหมด โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีตัดสินสมาชิกภาพนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินสิ้นสุดลง ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ทางการเมือง อันเป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีสามารถจะถูกถอดถอนได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นแต่งตั้งผู้มีมลทินเข้าดำรงตำแหน่ง นายกฯ ก็ต้องรับผิดฐานผิดจริยธรรมร้ายแรง หรือนโยบายฝ่ายบริหารที่ถูกตีความกำกวมว่า ส่อไปในทางทุจริต

กรณีจะมีการแต่งตั้งครม.ใหม่ในเร็ววันนี้ ก็มีรายชื่อประมาณ 4 รายที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลจัดส่งมา และยังมีปัญหาค้างคาทางคดีความ 

หากนายกรัฐมนตรีนำรายชื่อนั้นขึ้นทูลเกล้าฯ ก็น่าหวาดเสียวว่านายกฯ แพทองธารจะเป็นนายกฯ อายุสั้นยิ่งกว่าอดีตนายกฯ เศรษฐาหรือไม่

โครงการดิจิทัล วอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากมายในสังคม และ “นักร้องขาประจำ” ก็พร้อมแล้ว จะนำเรื่องสู่ศาลฯ ทันที หากรัฐบาลเดินหน้าต่อ

รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร!

ยกเลิก-ปรับปรุง หรือเลื่อนออกไปก่อน แต่ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรฟิทช์ เรทติ้งส์ สถาบันจัดอันดับเครดิตระดับโลก ระบุว่า รัฐบาลไทยจะต้องหาทางกระตุ้นด้านการคลังออกมา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ฟิทช์ฯ ระบุด้วยว่า ความผันผวนทางการเมืองของประเทศไทยก็เป็นปัจจัยเสี่ยงอีกประการหนึ่ง ที่ขัดขวางประสิทธิภาพของการกำหนดนโยบาย และกร่อนเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งนอกและในประเทศรวมทั้งผู้บริโภค

อันที่จริง แผนการแจกเงินประชาชน ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่ประการใด มีการดำเนินการกันมาในหลายประเทศ แม้เป็นประเทศที่เป็นต้นแบบการบริหารจัดการ

บารัค โอบามาช่วงขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ก็แจกเงินสดอย่างตรงไปตรงมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถดถอย หายใจรวยริน สิงคโปร์ใช้วิธีแจกตามฐานภาษีจ่ายของประชาชน

ใครจ่ายภาษีมาก ก็รับแจกเงินน้อย เพราะถือเป็นผู้ที่มีรายได้สูง จ่ายภาษีระดับปานกลางก็รับเงินแจกเพิ่มขึ้นมา ฐานภาษีจ่ายต่ำสุด ก็รับเงินแจกมากที่สุด

การแจกวิธีนี้ อาจถือเป็น “Rebate Tax” หรือการคืนภาษีให้ประชาชน เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจในความเป็นพลเมืองดี ก็ยังได้

ส่วนกรณีไทยเรา ที่ประชาชนกลุ่มเปราะบางส่วนใหญ่ ไม่อยู่ในระบบภาษี ก็ใช้การแจกอีกแบบหนึ่ง อาจจะนำ “กระเป๋าตัง” ของลุงมาใช้ ก็ยังได้เลย “ลุง” ทำให้ดูโดยไม่ผิดกฎหมายมาแล้ว

ล่าสุดรัฐบาลจีนของสี จิ้นผิง ก็กำลังพิจารณาจะแจก “คูปองเงินสด” จำนวน 1 ล้านล้านหยวนหรือเกือบ ๆ 5 ล้านบาทไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจจีนเติบโต 5% ในปีนี้ให้ได้

เมื่อยามเศรษฐกิจอ่อนแอ รัฐบาลไหน ๆ ก็หาทางแจกเงินประชาชนกันทั้งนั้น ไม่เห็นจะเป็นความเสี่ยงความเสียวอะไร และก็อาจ “ดับฝันตลาด” ที่เริ่มกลับมาดูดีในเวลานี้

ชาญชัย สงวนวงศ์

Back to top button