ฟันด์โฟลว์ต่างชาติรีเทิร์น

เปิดฉากขึ้นแล้ว Thailand Focus 2024 ภายใต้แนวคิด Adapting to a Changing World ความท้าทายของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


เปิดฉากขึ้นแล้ว Thailand Focus 2024 ภายใต้แนวคิด Adapting to a Changing World ความท้าทายของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว งานนี้มีผู้บริหารจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุนและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน 113 บริษัท ร่วมให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนต่างชาติ ช่วงระหว่าง 28-30 ส.ค. 67

ทว่า งานนี้โหมโรงขึ้นโดย “พิชัย ชุณหวชิร” รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ที่ออกมาส่งสัญญาณเรียกความเชื่อมั่นเป็นปฐมบทก่อน..

“ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมความมั่งคั่งให้นักลงทุนไทย การที่ดัชนีเพิ่มขึ้นมาทุก 100 จุด ทำให้ความมั่งคั่งที่คิดมาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านล้านบาท

ปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,300 จุดเศษ ๆ ลดลงค่อนข้างมาก จากระดับสูงสุดเดิม ทำให้ความมั่งคั่งของนักลงทุนลดลง โดยกระทรวงการคลังคาดหวังจะเห็นดัชนีหุ้นไทยขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,800 จุด นั่นหมายถึงมาร์เก็ตแคปอยู่ที่กว่า 20 ล้านล้านบาท ทำให้นักลงทุนไทยกลับมามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น”

ส่งที่ปรากฏเห็นชัดช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา (16-26 ส.ค. 67) ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่อง 75 จุด มาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้นกว่า 9 แสนล้านบาท (จาก 15.97 ล้านล้านบาท มาอยู่ที่ 16.90 ล้านล้านบาท)

ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยตัวเลขผลประกอบการบจ.โดยรวมไตรมาส 2/67 ด้วยยอดขายเพิ่มขึ้น 8.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ครึ่งปีแรกมียอดขาย 8,964,883 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% 

ฝั่งต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเพียง 4.9% และ 6% ตามลำดับ มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 922,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% และกำไรสุทธิ 519,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7%

โดยภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้บจ.ภาคธุรกิจการบริการและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมีกำไรดีขึ้น ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค โรงแรม การบิน พื้นที่เช่า ค้าปลีก โรงพยาบาลและโทรคมนาคม

แต่ “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง” ฟื้นตัวได้ไม่มากนัก..!!

จากฟันด์โฟลว์ต่างชาติ เริ่มสลับกลับมาซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องมากขึ้นเป็นสัญญาณบวกเบื้องต้นต่อภาวะเงินดอลลาร์อ่อนค่า และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond Yield) ปรับลดลงต่อเนื่อง

ถือเป็นภาพบวกต่อตลาดในกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (Laggard) และหุ้นกลุ่มเน้นคุณค่า (Value) ที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว สอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเริ่มโดดเด่นกว่าเกาหลีใต้, ไต้หวันและฮ่องกง นับตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/67 ที่ผ่านมา

ข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด บ่งบอกถึงสัญญาณการทยอยถือครองหุ้นไทยเพิ่มขึ้น ของนักลงทุนต่างชาติ นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี (Technology) 0.42%, กลุ่มบริโภค (Consumer Staples) 0.10%, กลุ่มไฟแนนซ์ (Financial) 0.09% และกลุ่มพลังงาน (Energy) 0.01%

นั่นจึงเป็นที่มาของกลยุทธ์ “หุ้นเด่นบนจอเรดาร์ต่างชาติ” เริ่มจากเทคโนโลยีปักหมุด DELTA, ADVANC ส่วนการบริโภค เน้น 2 แม่ลูก CPALL, CPAXT ไฟแนนซ์พุ่งเป้า BBL, KTB, KBANK และพลังงานให้น้ำหนัก GULF, PTT

การย่อตัวลงระยะสั้น ๆ ของดัชนีหุ้นไทย..น่าจะเป็นช่วงสะสมหุ้นได้เป็นอย่างดี

เล็กเซียวหงส์

Back to top button