นกรู้ขายก่อน

หากพูดถึงรูปแบบการลงทุนที่น่าสนใจในเที่ยวนี้เป็นหลัก “โมนิก้า” ต้องเอ่ยปากชมกลยุทธ์ของ “กองทุน” มากกว่านักลงทุนกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งเปรียบเสมือนกรู้ที่ยากจะหาตัวจับ เพราะสามารถขายหุ้นได้ในราคาดี และยังสามารถถอยไปตั้งรับหุ้นราคาถูกได้อีกด้วย เดี๊ยนจึงต้องจับตาท่าทีของกองทุนอย่างใกล้ชิด และมีเรื่องเดิมพันอยู่ที่แนวรับ 1,340 จุดเป็นตัวพิสูจน์ว่า ใช่จุดรับของอ๊ะป่าว?

ด้วยเหตุดังกล่าวจึงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรให้มากความ เพราะแค่ย้อนดูแรงขายของกองทุนวันก่อนที่ออกมาพันล้าน ขณะที่วานนี้ก็รินหุ้นออกมาอีกเป็น 1.30 พันล้าน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ดัชนีย่อตัวลงมา ก่อนจะถูกดันกลับขึ้นมาปิดที่ 1,365.72 บวกไป 1.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.30 หมื่นล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ได้วัดกันยาวอย่างแน่นอน เพราะนักลงทุนต่างชาติยังอยู่ในอาการฮึกเหิม (เคาะขวาไปอีก 1.76 พันล้าน) น่ะซี

ถึงกระนั้นต้องมองถึงความจริงที่ว่า ดัชนีขึ้นมาเกือบ 100 จุด ก็จำเป็นต้องพักตัวเพื่อให้แรงขายสะเด็ดน้ำ 20-30 จุด ผนวกกับตลาดหุ้นต่างประเทศก็อยู่ในช่วงพักตัวกันเป็นแถว ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนดูอืด ๆ ไปสักนิด แต่ในระหว่างวันก็ได้เห็นการเข้ามาช้อนหุ้นเป็นระยะ ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ทรงของตลาดหุ้นไทยยังดูดีเหมือนเดิม และเปิดโอกาสให้ดัชนีขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิมเจ้าค่ะ

โดยเฉพาะในรายของ TRUE ที่พยายามขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิมตลอดเวลา และสุดท้ายก็สามารถยืนปิดที่ระดับ 10.40 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.19 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 6 ปี 3 เดือนแบบนี้ น่าจะสื่อให้เห็นถึงความนิยมในหมู่นักลงทุนสถาบันยังมีอยู่มาก ซึ่งเปิดโอกาสให้หุ้นไปต่อได้อีก แม้จะมีตัวเลขขาดทุนค้ำคออยู่ก็ตามนะจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น PTT ขึ้นมาทันที เพราะโดยทั่วไปรู้กันดีว่า นโยบายปรับโครงสร้างพลังงานมีผลกระทบเต็ม ๆ และยังประเมินไม่ได้ว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมีมากน้อยเพียงใด? เพราะสิ่งที่รู้แจ้งเป็นเวลานานคือ ราคาหุ้นแกว่งตัวไปมาในกรอบ 31-36 บาทเป็นเวลาปีเศษ จึงต้องดูว่า การยืนปิดที่ระดับ 33.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.82 พันล้านบาท อันเป็นผลมาจากขึ้น XD จะไปอย่างไรต่อค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ DELTA ซึ่งเป็นหุ้นที่พวกสถาบันเล่นกันบ่อย ๆ ก็มีคาแรกเตอร์ “ลากขึ้น ลากลง” ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคาหุ้นก็ยังรักษากรอบการวิ่ง 100-105 บาทอย่างเหนียวแน่น จนวานนี้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 107 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.42 พันล้านบาท เลยเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องคิดมากเป็นพิเศษ เพราะเดาไม่ออกเหมือนกันว่า หุ้นจะไปต่อไหมหนอ? เพราะเที่ยวก่อนก็จอดป้ายตรงนี้จ้า!

ส่วนอีกหนึ่งตัวท็อปที่ “โมนิก้า” ชอบเอ่ยถึงเป็นช่วง ๆ คงมองไปที่หุ้น WHA เพราะในมุมของพื้นฐานยังมีแก๊ปให้ไปต่อได้อีก แต่ในมุมของการเล่นกลับไม่ผ่าน 5.40 บาทไปเสียที เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 5.45 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 410 ล้านบาท ยังมีมุมให้ได้ลุ้นไหม? เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ได้เป็นขาขึ้นสุดซอยเหมือนสัปดาห์ก่อนนะออเจ้า

ประเด็นหุ้นขาขึ้นทำให้เดี๊ยนต้องเอ่ยถึง DITTO ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 18.60 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 314 ล้านบาท มันมาจากสตอรี่งานในมือเพียบ และเป็นช่วงที่รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบ รวมทั้งการมีเอี่ยวกับงบก้อนใหม่แบบนี้ จึงทำให้พวกขาลุยกระโจนใส่หุ้นแบบดุดันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเชื่อว่า เกมนี้จะเล่นกันอีกยาวก็เท่านั้นเอง!

ไหน ๆ ก็มองหุ้นที่เล่นยาวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเหลือบตาไปมองหุ้น MAGURO กันอีกสักหน่อย เพราะอาการที่หุ้นวิ่งขึ้นจากก้นกระทะบริเวณ 13 บาทมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 19 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99 ล้านบาท มันไม่ได้มาเล่น ๆ อย่างแน่นอน และถ้าดูจากเม็ดเงินไอพีโอที่เอาไปขยายสาขา พร้อมกับเปิดแบรนด์ใหม่ ๆ มันทำให้เชื่อว่า กำไรจะโตขึ้นเป็นขั้นบันได..จริงเท็จอย่างไร ลองไปคิดกันดูนะคะ

โมนิก้า: และทีมงาน