KCE อัพเกรดการผลิต HDI

KCE โครงสร้างรายได้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 1.แผ่นพิมพ์ลายวงจร (Special PCBs : HDI) 33% 2.04 layers 37% 3.06 layers 21%


คุณค่าบริษัท

บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE โครงสร้างรายได้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 1.แผ่นพิมพ์ลายวงจร (Special PCBs : HDI) 33% 2.04 layers 37% 3.06 layers 21% 4.Double layers 9% สัดส่วนรายได้ตามภูมิภาค ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 1.ยุโรป 54% 2.สหรัฐอเมริกา 22% 3.จีน 11% 4.ไทย 9% 5.เอเชีย 4%

KCE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 635.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.82% จากไตรมาส 2/2566 และเติบโต 23.22% จากไตรมาส 1/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 515.38 ล้านบาท กำไรสุทธิไตรมาส 2 สูงกว่า consensus คาด 19% โดยหลักมาจากกำไรจากการขายสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 144 ล้านบาท และกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 46.3 ล้านบาท ซึ่งถูกลดทอนลงบางส่วนโดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ได้แก่ ขาดทุนจากการด้อยค่าและขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ 84.2 ล้านบาท เมื่อหักรายการพิเศษดังกล่าว พบว่ากำไรปกติไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 530.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.1% จากไตรมาส 1/2567 และ 65.8% จากไตรมาส 2/2566 โดยแรงหนุนจากยอดขาย PCB ที่เพิ่มขึ้น 6.1% จากไตรมาส 1/2567 และ 2.9% จากไตรมาส 2/2566 โดยฉพาะการส่งออกผลิตภัณฑ์ PCB ไปยังสหรัฐฯ เอเชีย และจีน

KCE รายงานยอดขายไตรมาส 2/2567 ที่ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 3% จากไตรมาส 2/2566 แต่เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาส 1/2567 อุปสงค์โดยรวมยังคงทรงตัว ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 24.8% (เพิ่มขึ้น 1.65% จากไตรมาส 1/2567 และเพิ่มขึ้น 5.65% จากไตรมาส 2/2566) ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่อ่อนค่าลง 0.80% ส่วนที่เหลือประมาณ 0.70% มาจากการประหยัดต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง ด้านอัตราภาษี (Tax rate) ในไตรมาส 2/2567 ลดลงเหลือ 4% เนื่องจาก KCE ได้รับ BOI ใหม่ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2567 โดยสิทธิประโยชน์นี้จะมีผลเป็นเวลา 3 ปี และในไตรมาส 3/2567 จะได้รับผลบวกเต็มไตรมาส ส่วนปัญหาหลักของ KCE ในขณะนี้คือการเพิ่มกำลังการผลิตของ HDI และการปรับปรุงสายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งใช้เวลามากกว่าที่คาดไว้ ปัจจุบัน KCE มี Backlog คงค้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาการเพิ่มกำลังการผลิตของ HDI ทำให้ไม่สามารถรับ Order บางส่วนมาผลิตได้

ผู้บริหาร KCE ระบุว่า ยอดขายในไตรมาส 3/2567 ในสกุลดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะเติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบไตรมาส 2/2567 แต่ไม่เด่นชัดเหมือนในอดีตที่ไตรมาส 3 จะเด่นกว่าไตรมาส 2 สาเหตุหลักมาจากการปรับปรุงสายการผลิตและการเพิ่มกำลังการผลิตของ HDI ที่ใช้เวลานานกว่าคาด ขณะที่ GPM คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2/2567 แม้จะได้รับประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น KCE คาดว่าการแก้ไขสายการผลิตของ HDI จะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/2567 ด้วยเครื่องจักรใหม่เพื่อปลดล็อกปัญหาคอขวด ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิต HDI ได้ 20-30% ไปจนถึงปี 2568

ข้อมูลจาก LSEG Consensus สำหรับ KCE ระบุว่า ประมาณการรายได้รวมปี 2567 ที่ 16,505.90 ล้านบาท และประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 2,142.37 ล้านบาท โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 48.08 บาท จาก 12 โบรกเกอร์

บล.กสิกรไทย ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567-2569 ลงมาเป็น 2 พันล้านบาท/2.3 พันล้านบาท/2.3 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนแนวโน้มยอดขายและ GPM ทีลดลง จากกำลังการผลิตที่จำกัดของสายการผลิต HDI และคาดว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของกำไรระหว่างปี 2567-2569 จะอยู่ที่ 13% ด้านบล.หยวนต้า ยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2567 ไว้ที่ 2 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 28% จากปี 2566) แม้ว่าแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 อาจไม่เด่นชัดอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้า และได้ปรับลด Multiple ลงอีกครั้งจาก +0.25SD มาเป็น -0.25SD เพื่อสะท้อนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสถดถอยสูงขึ้น

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น KCE ราคาปัจจุบัน (ราคาปิดวันที่ 27 ส.ค. 2567 ที่ 38.25 บาท) เทรดที่ P/E 21.05 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ 49.51 เท่า ส่วนค่า P/BV ของหุ้น KCE อยู่ที่ 3.22 เท่า ต่ำกว่า P/BV กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ 8.71 เท่า

Back to top button