ทักษิณ ชินวัตร กับ โยเซฟ ชุมปีเตอร์
การเปิดหน้าสู้ของทักษิณ ชินวัตร ว่าอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ถือเป็นการเรียกแขกอย่างดี
การเปิดหน้าสู้ของทักษิณ ชินวัตร ว่าอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ถือเป็นการเรียกแขกอย่างดีที่ทำให้เกิดตัวละครทั้งเก่าและใหม่ที่เคยเป็นมิตรและศัตรูของทักษิณ ต่างออกมา พูดถึงอนาคตของรัฐบาลแพทองธาร ว่าจะจบลงแบบศพไม่สวยกันอึงคะนึง ทั้งกลุ่มที่เคยเป็นแนวร่วมของทักษิณอย่างนางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตผู้นำนปช. รวมทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่เคยรับใช้นายทักษิณอย่างซื่อสัตย์มายาวนาน รวมถึงศัตรูอย่างเปิดเผยเช่นนายสนธิ ลิ้มทองกุล และอื่น ๆ ทำให้เราสามารถคาดเดาว่าประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยภายใต้เงื้อมเงาของนายทักษิณ ชินวัตร จากนี้ไปจะเข้มข้นและดุเดือดเลือดพล่าน ด้วยทฤษฎีของโจเซฟ ชุมปีเตอร์ ที่ว่าด้วยการทำลายล้างอย่างสร้างสรรค์ ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ทฤษฎีประวัติศาสตร์ของชุมปีเตอร์นี้ เคยได้รับการกล่าวขวัญเป็นครั้งคราวว่าอยู่เคียงข้างลัทธิมาร์ค เพียงแต่ทฤษฎีของชุมปีเตอร์ไม่ได้มองประวัติศาสตร์เป็นเส้นตรงว่าจะต้องมุ่งสู่สังคมนิยมและลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่เปิดกว้างให้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางอำนาจ ได้สร้างเครื่องมือใหม่ ที่คาดเดาไม่ถึง ไม่ได้บอกว่าลัทธิทุนนิยมจะถูกแทนที่ด้วยลัทธิสังคมนิยมแบบที่มาร์คคาดเดา เพียงแต่มีข้อสรุปว่าจะมีการทำลายล้างแบบสร้างสรรค์ ภายใต้ทฤษฎีชุมปีเตอร์นี้ การเมืองไทยในปัจจุบันมีการต่อสู้กันระหว่างสองตัวแปรหลักในสังคมคือกลุ่มทักษิณ ชินวัตร ที่เชื่อในอำนาจของการจัดการทรัพยากรทางการเมือง กับกลุ่มอนุรักษนิยมที่มีแนวคิดราชาชาตินิยมที่ต้องการรักษาอภิสิทธิ์ของอำนาจการปกครองเดิมที่มีมายาวนาน
คืออำนาจกองทัพบวกกับอำนาจรัฐอนุรักษนิยมทั้งหลาย ซึ่งผลของการปะทะกันของอำนาจทั้งสอง ทำให้เกิดการต่อสู้ทางอำนาจครั้งใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนและเป็นที่มาของการรัฐประหาร ในปี 2549 และ 2557 แต่ในการรัฐประหารทั้งสองครั้งกลับไม่สามารถทำลายทักษิณ ชินวัตร ให้สิ้นซากได้ทั้งยังเปิดทางให้ทักษิณกลับมาได้อีกอย่างแยบยลด้วยยุทธศาสตร์สู้ไปกราบไป
การกลับเข้ามาสู่การต่อสู้ทางการเมืองครั้งใหม่ของทักษิณในยามนี้ ซึ่งอาจจะดูโฉ่งฉ่างแต่ก็มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะไม่ถูกทำลายด้วยวิธีการและเครื่องมือเก่า ๆ อย่างเช่นใช้กองทัพทำรัฐประหารหรือเครื่องมือทางกฎหมายอื่น ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าทักษิณรู้จักเอาตัวรอดจากเกมการต่อสู้อันยาวนานเกือบ 20 ปี เพียงแต่จุดจบหรือชัยชนะของทักษิณนั้นอาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่กลุ่มทักษิณและกลุ่มอนุรักษนิยมคาดหมายไว้เนื่องจากสังคมไทยยังมีทางออกของกลุ่มคนก้าวหน้าที่พร้อมจะโผล่ขึ้นมาต่อสู้เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ที่กลุ่มทักษิณและกลุ่มอนุรักษนิยมคาดเดาไม่ถึง
ภาพการเปลี่ยนแปลงตามทฤษฎีชุมปีเตอร์และการทำลายล้างอย่างสร้างสรรค์ ก็อาจจะเกิดขึ้นมาได้ถ้าหากว่าคนในสังคมไทยยังยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีของการต่อสู้อย่างมุ่งมั่น ซึ่งคงจะคาดหวังไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องเปิดช่องไว้หากไม่ต้องการสูญเสียไปกับการต่อสู้ระหว่างกลุ่มทักษิณและกลุ่มอนุรักษนิยม
วิษณุ โชลิตกุล