ก๊วนหุ้นเล็ก

วันนี้ “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนบรรยากาศเม้าท์ถึงหุ้นเล็กที่พากันขึ้นมาโชว์ของแบบเหนือความคาดหมายกันดีกว่า เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยคงขึ้น ๆ ลง ๆ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง


วันนี้ “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนบรรยากาศเม้าท์ถึงหุ้นเล็กที่พากันขึ้นมาโชว์ของแบบเหนือความคาดหมายกันดีกว่า เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยคงขึ้น ๆ ลง ๆ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ฐานแนวรับใหม่จะค่อย ๆ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะหุ้นใหญ่กำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปอย่างช้า ๆ ซึ่งเป็นเกมที่บีบหัวใจนักเล่นประเภทขวัญอ่อน เพราะจะมีการเขย่าหุ้นแรงเป็นระยะไงล่ะคะ

ที่สำคัญอย่าลืมว่า วันนี้สัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติเกินครึ่งของตลาดหุ้นไทยไปแล้ว ส่งผลให้การขยับตัวต่อจากนี้ขึ้นกับนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเป็นหลัก ยกเว้นกองทุนเปลี่ยนใจทุ่มเงินซื้อหนัก ๆ ส่งผลให้การยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,364.60 จุด บวกไป 10.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.22 หมื่นล้านบาท เป็นการยืนยันในเบื้องต้นว่า ดัชนีกำลังพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,400 จุดอีกครั้ง และกลายเป็นเวทีของกองทุนแบบเต็มตัวนะออเจ้า

งานนี้บอกได้ทันทีว่า หุ้นใหญ่หลายตัวยังเป็นทีเด็ดสำหรับคนที่ชอบลงทุนในหุ้นพื้นฐานมั่นคง ขณะเดียวกันก็จะเห็นว่า หุ้นเล็กเริ่มกลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง ซึ่งเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับขาลุยโดยเฉพาะ เพราะกลายเป็นเกมที่วัดความไวของแต่ละคน รวมถึงเจ้ามือที่เข้ามาดันหุ้นเป็นประเภท “ใจถึงพึ่งได้” ขนาดไหน? และไม่มีความจำเป็นต้องไปหาเหตุผลมาซัพพอร์ตการขึ้นอีกด้วยเจ้าค่ะ

ขนาดหุ้นที่ทำธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป และอสังหาริมทรัพย์อย่าง CPH ยังทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเป็นวันที่ 3 ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 16.30 บาท บวกไป 3.80 บาท หรือขึ้นไป 30.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 97 ล้านบาทแบบชิล ๆ แต่เมื่อดูจากกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.41 บาท และหุ้นเทรดบน PE 12 เท่า ก็พอเข้าใจการขึ้นเที่ยวนี้น่าจะมีอะไรดีจริง ๆ แต่ถึงกระนั้นก็อยากเตือนไว้นิดหนึ่งว่า เมื่อ 2 ปีก่อนก็มาทรงนี้ แต่หลังจากนั้นกำไรก็ทรุดฮวบ และราคาหุ้นก็รูดมหาราชนะจ๊ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของ CPR ก็เดินมาทรงเดียวกัน แต่ที่แย่หน่อยคือผลงานไม่เวิร์ค ส่งผลให้การขึ้นของหุ้นในแต่ละรอบมีคำถามตามมามากมาย “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนประเมินกันเอาเองว่า การที่กำไรต่อหุ้นของหุ้นอยู่แค่ระดับ 0.08 บาท เทียบกับราคาของหุ้นในกระดานที่ระดับ 4.52 บาท บวกไป 0.68 บาท หรือขึ้นไป 17.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 191 ล้านบาท จะเล่นกันยาวไหม? หรือกำไรปีนี้จะโตเป็นประวัติการณ์ ก็จะเป็นอีกเรื่องทันทีค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ CPL ก็แรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1.90 บาท บวกไป 0.37 บาท หรือขึ้นไป 24.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 106 ล้านบาท อาจเป็นเรื่องที่โอเว่อร์เกินไปก็จริง แต่เมื่อดูแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่น ก็ต้องยอมใจให้กับหุ้นตัวนี้จริง ๆ เพราะเมื่อดูสภาพของบริษัทที่ทำกำไรปีเว้นปี และกำไรในปีที่ทำได้ ก็ไม่ปังเหมือนที่หลายคนคาดหวัง เดี๊ยนเลยมองว่า เกมนี้เป็นใจเพียว ๆ นะคะ

อีกจุดหนึ่งที่อยากให้สังเกตก็คือ หุ้นทั้งสามตัวนี้ชอบมาแบบหน้ากระดาน และทุกคนก็จะใส่กันไฟแลบทุกทีเหมือนกัน “โมนิก้า” เลยไม่อยากเข้าไปเป็น กขค. ในเรื่องของเกมหุ้น เพราะเกมพรรค์นี้มันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน..อิอิอิ

เหมือนกับการไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ ของหุ้น PROEN ก่อนจะระเบิดฟอร์มใหญ่ด้วยการพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.26 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 11.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าติดตามดูเหลือเกิน และจากการผ่านพ้นมรสุมชีวิตมากมายมาได้ ไม่ว่าจะเรื่อง “หวยใต้ดิน” หรือ “หุ้นกู้” ส่งผลให้การทะยานขึ้นเที่ยวนี้น่าจะมาจากเคลียร์ปัญหาชีวิตได้หมดแล้ว และกำลังเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหรือเปล่า?

อีกรายที่กำลังลุ้นจะกลับมาได้ไหม? เดี๊ยนคงมองไปที่หุ้น NCAP เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อที่เข้ามาเป็นระยะ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 2.04 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40 ล้านบาท ก็มาพร้อมกับคำถามที่ว่า กำไรในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกใช่ไหม? เพราะเมื่อดูจากปัจจัยรอบด้านหลาย ๆ อย่างจะเห็นว่า ยังเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการเล่นสั้น ๆ เพราะสภาพธุรกิจยังเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ จ้า!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button