สังคมข่าวหุ้น

ดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นมาปิดด้วยการยืนเหนือ 1,400 จุด ได้อีกครั้งแบบงัดขึ้นมาไม้เดียว +38.79 จุด มาที่ 1,404.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 81,736 ล้านบาท ถือว่าสูงสุดนับจากต้นปี 2567 โดยดัชนีตอนต้นปีอยู่ที่ 1,413 จุด คำถามคือว่า จะไปต่อไหม? คำตอบคือ มีโอกาสสูง เพียงแต่ว่าในช่วงสั้น ดัชนีอาจจะมีพักฐานหรือย่อตัวบ้าง และระหว่างวัน อาจจะหลุดจากระดับ 1,400 จุดได้ แต่หากปิดตลาดแล้วยังยืนเหนือ 1,400 จุด นั่นหมายความว่าที่ระดับดังกล่าวเป็นแนวรับไปแล้ว ส่วนแนวต้านในระยะปานกลาง อยู่บริเวณ 1,440-1,450 จุด

วานนี้หุ้นกลุ่มกัลฟ์ พาเหรดขึ้นกันสนุกสนาน นำโดย ADVANC +7.66% วอลุ่มเทรดอันดับหนึ่งกว่า 4,639 ล้านบาท ส่วน INTUCH +6.27% วอลุ่มเทรด 2,697 ล้านบาท GULF +4.90% วอลุ่มเทรด 1,705 ล้านบาท และ THCOM +4.00% วอลุ่มเทรด 345 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มราคาอาจจะมีย่อตัวลงมาบ้าง ค่อยไปดักเก็บตอนนี้น่าจะดีกว่า แต่หากกลัวว่า ราคาไม่ย่อ แล้วจะตกขบวน ก็ต้องเข้าแบบทีละไม้ ไม้สั้น ๆ และทุ่มแบบหมดเงินหมดหน้าตักล่ะ

กลุ่มไฟแนนซ์ ราคาดีดกระโดดด้วยเช่นกัน แต่หุ้นในกลุ่มนี้ราคาขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ทั้ง TIDLOR SAWAD MTC SAK NCAP THANI เพราะมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนทั้งเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง และยังรวมถึงมาตรการของแบงก์ชาติที่จะให้มีผู้กู้ร่วมได้สำหรับสินเชื่อรถ น่าจะทำให้ยอดปล่อยกู้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยลดความเสี่ยงเรื่องหนี้เสียได้ด้วย เช่น บล.บัวหลวง แนะนำ MTC

วานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 7,484 ล้านบาท (SET) แต่หากรวม mai ด้วยจะมียอดอยู่ที่ 7,571 ล้านบาท ส่วนจะซื้อต่อเนื่องหรือเปล่า ยังยากที่จะคาดการณ์ แต่หากดูจากทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ก็เป็นไปได้ที่ต่างชาติจะซื้อต่อไป บวกกับ หุ้นไทยมีปัจจัยหนุนเข้ามาต่อเนื่องทั้งจากการเมืองที่เริ่มมีเสถียรภาพ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมา เงินจากกองทุนวายุภักษ์ และ TESG คือหากไม่เข้าตอนนี้ มีโอกาสตกขบวน หรือต้องไปซื้อข้างบน ได้ของแพงแน่ ๆ

เอสซีบี เอกซ์ SCB วานนี้ขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2 บาท แต่ราคาปิด +0.50 บาท (107.50 บาท) เท่ากับว่า ใครถือหุ้นอยู่รับไปเลยสองเด้ง ทั้งจากส่วนต่างราคาและเงินปันผล ส่วนแนวต้านถัดไป ระยะสั้นคือ 108.00 บาท หากผ่านขึ้นมาได้จะมีต้านที่ 108.50-109.00 บาท ส่วนแนวรับ 107.00-105.50 บาท หากจะเข้าซื้อ รอจังหวะย่อตัวที่แนวรับน่าจะดีกว่า เพียงเสี่ยงติดดอยยาวเหมือนกันหากไปเข้าที่ระดับ 108.00 บาท ขึ้นไป

หุ้นกลุ่มส่งออก เช่น CPF GFPT TFG DELTA KCE ราคาต่างทรง ๆ นิ่ง ๆ และบางตัวลงมาในแดนลบสวนกับภาวะตลาด เป็นผลมาจากเงินบาทแข็งค่ารวดเร็ว ไม่เป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มส่งออก และหากแนวโน้มค่าเงินยังแข็งค่าต่อไป อาจจะเห็นแรงขายหุ้นออกมาอีก จึงควรจะเลี่ยงลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้ออกไปก่อน ส่วน DELTA หากลงมาในแดนลบ และต่ำกว่า 100.00 บาท ถือว่าน่าซื้อ เข้าสะสมได้

เซ็นทรัล รีเทลฯ CRC ราคาขยับขึ้นมาอีกครั้ง วานนี้ปิด 31.00 บาท +1.50 บาท สำหรับ CRC เป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์ และ TESG เช่นกัน วันนี้หากราคายังขึ้นต่อ และผ่านแนวต้าน 31.50 บาท ทำให้มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 33.00 บาท ได้อีกครั้ง และหากผ่านจุดนี้อีก ระดับ 34.50-36.00 บาท น่าจะขึ้นไปสัมผัสได้อีกครั้ง ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3-4/2567 หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มทำงาน จีดีพีออกมาในระดับสูง น่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการ CRC ขึ้นไปอีก

คาเฟอีน