นักลงทุน ‘ม่วนชื่น’ กันทั่วหน้า
ตลาดหุ้นไทยขานรับการมาของ “รัฐบาลชุดใหม่” ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” มาอย่างต่อเนื่อง
เส้นทางนักลงทุน
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา มันทำให้เกิดความรู้สึก “ม่วนชื่น” นักลงทุนชื่นอกชื่นใจซะจริง ๆ เมื่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Index) ปรับตัวทะลุ 1,400 จุด
ตลาดหุ้นไทยขานรับการมาของ “รัฐบาลชุดใหม่” ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” มาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการฟอร์มทีมเรียบร้อยและจะเริ่มทำงานกันอย่างจริงจัง ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจว่ารัฐบาลชุดใหม่มีเสถียรภาพ มีความมั่นคง และพร้อมที่จะเดินหน้าทำงานกันแล้ว
นอกจากนี้ การมาของ “กองทุนวายุภักษ์” โดยในต้นสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างออกมารับลูกเร่งผลักดันให้ “กองทุนวายุภักษ์” โชว์ศักยภาพเกื้อหนุนตลาดหุ้นไทย
โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเกณฑ์เพื่อรองรับการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ ระบุว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้มีการระดมทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง (VAYU1) เพื่อเป็นกลไกเสริมสร้างการออมและการลงทุนให้ประชาชน
รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ โดยคาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และนำเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้รองรับการจดทะเบียนและการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม (Mutual Funds) ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1) ปรับปรุงระยะเวลาในการเปิดเผยข้อมูลของกองทุนรวม เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างเพียงพอ
1.1 ปรับปรุงการเปิดเผยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยลงทุน (NAV) ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คือทุกวันทำการ
1.2 ปรับปรุงการเปิดเผยวันให้สิทธิใด ๆ (วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน (Book Closing Date) หรือวันกําหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน (Record Date)) แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมไม่น้อยกว่า 5 วันทำการก่อนวันให้สิทธิ
2)ปรับปรุงเกณฑ์ราคาขายชอร์ตให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ของ VAYU1 และช่วงราคา (Tick Size) ในการซื้อขาย VAYU1 เพื่อสนับสนุนการทำหน้าที่ของ Market Maker ในการช่วยส่งเสริมสภาพคล่องเพื่อประโยชน์แก่ผู้ลงทุน
2.1 ยกเว้นเกณฑ์ราคาขายชอร์ตให้ Market Maker ของ VAYU1 สามารถขายชอร์ตหน่วยลงทุนของ VAYU1 ได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องราคาขายชอร์ต
2.2 ปรับปรุงช่วงราคา (Tick Size) ในการเสนอซื้อขายหน่วยลงทุนของ VAYU1 ให้เป็นขั้นบันไดเช่นเดียวกับหุ้น
การเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว
ในส่วนของสำนักงานก.ล.ต.นั้น ไม่ต้องพูดถึง ก่อนหน้านี้เลขาธิการ “พรอนงค์ บุษราตระกูล” บอกอย่างชัดเจนว่าพร้อมอำนวยความสะดวกในด้านของกฎเกณฑ์อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว
เมื่อบวกเข้ากับข่าวดี การแจกเงินดิจิทัลที่แม้ว่า…อาจจะมาช้า….แต่มาแน่ โดยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแจก และกลุ่มที่จะได้รับการแจก โดยเฉพาะการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางก่อน รวมทั้งน่าจะเร่งให้ทันใช้เงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท น่าจะช่วยลดความกังวลของทุกฝ่าย ก็สร้างความสบายใจให้เกิดขึ้น
ตลาดหุ้นไทยวิ่งรอบนี้มาจากปัจจัยหนุนภายในประเทศล้วน ๆ นักลงทุนคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่จะมีออกมา หากทำสำเร็จตามเงื่อนเวลาที่กำหนด ก็จะขับเคลื่อน SET Index ขึ้นไปต่อได้
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ระบุว่า นอกจากประเด็นด้านการเมืองแล้ว ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกจากกระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มไหลเข้า โดยเห็นสัญญาณตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และคาดว่าเงินต่างชาติจะไหลเข้าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้จาก 3 ประเด็น คือ
1.การเมืองมีความชัดเจนแล้ว และเสถียรภาพรัฐบาลใหม่ดูแข็งแกร่งกว่าเดิม
2.ตลาดหุ้นไทยยังปรับขึ้นน้อยกว่าตลาดโลก และซื้อขายที่ระดับ P/E ถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต
3.โอกาสการซื้อคืนของต่างชาติ หลังจากที่ปีนี้ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังมียอดขายสุทธิสะสมมากกว่า 1.2 แสนล้านบาท สอดคล้องกับสถานะชอร์ตคงค้างที่มีมูลค่าลดลงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ หากผสานกับเม็ดเงินกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) ที่ปรับเงื่อนไขแล้วน่าดึงดูดขึ้น คาดจะมีเงินไหลเข้าราว 2-3 หมื่นล้านบาท และการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์อีก 1-1.5 แสนล้านบาท จึงเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทยโดยรวม
ซึ่งจากการประเมินของบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ เห็นว่าทุก ๆ เงินกองทุนที่ไหลเข้าสุทธิ 1 หมื่นล้านบาท จะช่วยหนุน SET Index ปรับขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 12-13 จุด
นี่แค่ทะลุ 1,400 จุดขึ้นไปได้ ก็ “ม่วนอก ม่วนใจ” กันแล้ว จริงมะ!!!