PTG ครึ่งปีหลังเด่นกว่าครึ่งปีแรก

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หุ้นปั๊มน้ำมัน PTG ผลประกอบการไม่สู้ดีนัก แม้รายได้ยังเติบโต แต่กำไรสุทธิลดลงต่อเนื่อง


คุณค่าบริษัท

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หุ้นปั๊มน้ำมันบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผลประกอบการไม่สู้ดีนัก แม้รายได้ยังเติบโต แต่กำไรสุทธิลดลงต่อเนื่อง จากเคยมีกำไรสุทธิเกิน 1,000 ล้านบาท ปีที่แล้วเหลือแค่ 900 ล้านบาทเศษเท่านั้น สาเหตุหลักมาจากค่าการตลาดที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ บวกกับนโยบายแทรกแซงจากภาครัฐ กลายเป็นปัจจัยกดดัน

แต่หลังจากสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ส่งผลให้ผลประกอบการของ PTG ฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ เห็นได้จากงบไตรมาส 2/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 302.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท

การเติบโตดังกล่าวมาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 13.7% มาอยู่ที่ 57,775 ล้านบาท มีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil ที่มีรายได้เติบโต 13.0% อยู่ที่ 53,622 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในไตรมาสนี้ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเติบโต 11.9% อยู่ที่ 1,716 ล้านลิตร ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการที่มีสัดส่วน 97.6% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดผ่านช่องทางสถานีบริการอยู่ที่ 22.3% ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 21.8%

ในส่วนของธุรกิจ Non-Oil มีรายได้เพิ่มขึ้น 24.5% เป็น 4,153 ล้านบาท มีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจก๊าซ LPG ที่มีรายได้ 2,305 ล้านบาท เติบโต 13.1% เป็นผลจาก 1)มีปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ที่ยังคงสร้างสถิติสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องจำนวน 174 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 12.4% และ 2)ราคาขายเฉลี่ยที่ 13.27 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย มีรายได้เพิ่มขึ้น 76.2% อยู่ที่ 517 ล้านบาท จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/2567 มีจำนวนสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยทั้งสิ้น 1,028 สาขา เพิ่มขึ้น 46.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับมีการกลับมาใช้บริการของลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus อย่างต่อเนื่อง

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 732 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 400 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 112,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 101,738 ล้านบาท

เมื่อผลงานครึ่งปีแรกสดใส เลยทำให้ PTG ปรับเป้ายอดขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% จากเดิม 10-12% เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังคงสร้างการเติบโตที่สูงจากอุปสงค์การใช้น้ำมันในครึ่งปีหลังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ขณะที่ บล.กรุงศรี มองบวกเล็กน้อยต่อ PTG จาก 1)แนวโน้มการเพิ่มยอดขายได้ทุกธุรกิจในครึ่งปีหลัง ตามความสำเร็จในการเพิ่มสาขา และส่งเสริมการตลาด เพิ่มยอดขายต่อสาขาได้ต่อเนื่อง แต่ด้านกำไรจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะค่าการตลาดไม่สูงเท่าไตรมาส 4/2566 ราว 1.85 บาท/ลิตร

2)Non-oil มีแนวโน้มเพิ่มอัตรากำไรได้จาก economies of scale ที่เพิ่มขึ้น โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้น non-oil ในปี 2567 ราว 21% เทียบกับปี 2566 อยู่ที่ 20% และในครึ่งปีแรกราว 22% และ 3)ระยะยาวอาจมี upside ของอัตรากำไร หากบริษัทลดค่าใช้จ่ายการตลาดได้ โดยทุก ๆ SG&A ต่อลิตรที่ลดลง 0.01 บาท/ลิตร จะเป็น upside ต่อกำไรราว 3-4%

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น PTG ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 11.89 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.01 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด อย่างไรก็ตามถ้าดู P/BV ที่ระดับ 1.70 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.29 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 9.87 บาท จากราคาต่ำสุด 6.80 บาท และราคาสูงสุด 12 บาท

Back to top button