PROEN ขายทรัพย์..ยื้อชีวิต

ชักน่าเป็นห่วง..!! เมื่อเห็นงบการเงินไตรมาส 2/2567 ของบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN ออกมาไม่ค่อยสู้ดี แม้รายได้ยังโตได้อยู่ แต่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายกลับเพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ ทำให้ในไตรมาสนี้มีตัวเลขขาดทุนสุทธิ 17.89 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.06 ล้านบาท

ถือเป็นการขาดทุนต่อเนื่องมา 2 ไตรมาสแล้ว ส่งผลให้ผลงานครึ่งปีแรกของปี 2567 รายได้หายไป 10.48% อยู่ที่ 293.59 ล้านบาท และพลิกมาขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 21.24 ล้านบาท

เมื่อรายได้หาย สิ่งที่พร่องไปด้วยนั่นคือ กระแสเงินสดในกระเป๋า ดูได้จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดราว 70-90 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2566 ที่มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 222.53 ล้านบาท ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

อ้าว…รายได้ก็หด-เงินสดก็หายนะเนี่ย..!!

แต่สิ่งที่ไม่ได้ลดลงเลยเห็นจะเป็นภาระหนี้สินที่ PROEN มีอยู่ โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 มีหนี้สินรวมอยู่ที่ 1,257.15 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นหนี้ระยะยาวจากสถาบันการเงิน 195.93 ล้านบาท หุ้นกู้ 300.50 ล้านบาท และหนี้สินตามสัญญา 18.33 ล้านบาท

เบื้องต้นดูหมิ่นเหม่จะมีปัญหาสภาพคล่องนะ โดยเฉพาะหนี้ก้อนโตที่รออยู่..!!

กลายเป็นที่มาให้ PROEN ต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด อุ๊ย..เร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หนึ่งในนั้นเป็นการตัดใจขายสินทรัพย์ออกมา..!?

เลยเป็นที่มาของมติบอร์ดเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 ให้โละขายโครงการศูนย์บริการข้อมูล (Data Center) ภายใต้ชื่อโครงการ OTT DC ให้แก่ บริษัท ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ แอนด์ คลาวด์ เซอร์วิสเซส จํากัด (ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์) มูลค่ารวม 802.83 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) แบ่งเป็น อุปกรณ์ Data Center มูลค่า 433.83 ล้านบาท และที่ดินและอาคารที่ตั้ง Data Center มูลค่า 369 ล้านบาท

เอ๊ะ…ไม่ต่างจากตัดเส้นเลือดใหญ่ออกไปนะ แลกกับการได้เงินมา 802.83 ล้านบาท ซึ่งเกือบครึ่งนำไปใช้หนี้ ได้แก่ หนี้หุ้นกู้และเงินกู้ธนาคาร 320 ล้านบาท และหนี้สัญญาเช่าซื้อ 40 ล้านบาท

อีกส่วนก็พยายามสร้างโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการนำเงินจำนวน 264 ล้านบาท ไปซื้อหุ้น “ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์” จำนวนไม่เกิน 52.80 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5 บาท คิดเป็นสัดส่วน 30% จากผู้ถือหุ้นเดิม แมกม่า โฮลดิ้ง คอมพะนี ลิมิเต็ด

โอเค…การนำเงินบางส่วนไปต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม ผ่าน “ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์” ซึ่งจากเอกสารที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า มี “แมกม่า โฮลดิ้ง คอมพะนี ลิมิเต็ด” บริษัทสัญชาติอังกฤษเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เกี่ยวข้องกับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และ AI…ในเชิงการ Synergy ก็จะเป็นโอกาสใหม่ของ PROEN หลังจากสูญเสียแอสเซทไป

ก็ดีแหละ…แต่ติดแค่นิ๊ดดดเดียว…พอไปเช็กข้อมูลจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า “ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์” เป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2567 เองนะ แถม “แมกม่า โฮลดิ้ง คอมพะนี ลิมิเต็ด” เท่าที่ตรวจสอบข้อมูลดู เหมือนจะปิดกิจการไปแล้ว เอ๊ะ…มันยังไงกันเนี่ย..??

แต่ถ้าข้อมูลคลาดเคลื่อนประการใด ก็กรี๊งกร๊างมาบอกกล่าวกันได้นะ…ยินดีเจ้าค่ะ

ที่แน่ ๆ จากการขายแอสเซทครั้งนี้ ระยะสั้นจะทำให้จากเดิม PROEN เคยรับรู้รายได้จากโครงการ OTT DC เต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็จะเปลี่ยนเป็นการรับรู้ทางอ้อมผ่าน “ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์” แทน…คงทำให้รายได้และกำไรพร่องลงไปเยอะเลย

ส่วนระยะยาวจะกลับมามีกำไรได้อย่างไร..?? และเมื่อไหร่..?? อันนี้ตอบยาก

แต่ที่ตอบได้…ถ้ายังไม่เห็นกำไรเร็ว ๆ นี้

…เห็นควรโกยกันเถอะโยม..!?

…อิ อิ อิ…