พาราสาวะถี
เหลืออีกเพียงหนึ่งพิธีกรรมก็จะทำให้ แพทองธาร ชินวัตร นำรัฐนาวาอุ๊งอิ๊ง 1 เข้าสู่โหมดการทำงานอย่างสมบูรณ์ หลังจากแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา
เหลืออีกเพียงหนึ่งพิธีกรรมก็จะทำให้ แพทองธาร ชินวัตร นำรัฐนาวาอุ๊งอิ๊ง 1 เข้าสู่โหมดการทำงานอย่างสมบูรณ์ หลังจากแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 12-13 กันยายนนี้แล้ว การประชุม ครม.นัดแรกอย่างเป็นทางการก็จะเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีหญิงสื่อสารไว้ ไม่มีเวลาฮันนีมูนสำหรับรัฐบาล ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อให้ผลเป็นที่ปรากฏ และเป็นไปเหมือนที่ผู้เป็นพ่อ ทักษิณ ชินวัตร เคยบอกว่า รัฐบาลจะทำงานเป็นรูปธรรมมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บทสัมภาษณ์ของแพทองธาร หลังการประชุม ครม.นัดพิเศษเพื่อพิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา หลังถูกถามถึงการปรามาสนายกฯ จะทำงานภายใต้ร่มเงาผู้เป็นพ่อว่า “จะไม่ขอตอบเรื่องท่านทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี ฉะนั้นขอตอบแค่นี้” พูดให้ชัดคือไม่ต้องมาถามเรื่องอดีตนายกฯ แต่ไม่ปฏิเสธ ซึ่งย้ำแล้วว่าถ้าไม่ดัดจริตกัน ลูกสาวมีพ่อที่เป็นอดีตผู้นำประเทศที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว จะไม่ปรึกษา หารือ ขอคำชี้แนะใด ๆ คงเป็นเรื่องแปลกประหลาด
สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ท่วงทำนองของอุ๊งอิ๊งในการเป็นผู้นำการขับเคลื่อนประเทศ แต่น่าจะอยู่ที่บทบาท ความเคลื่อนไหวของทักษิณมากกว่า จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่มีการไปร้องให้เอาผิดทั้งแพทองธารและพรรคเพื่อไทยในประเด็นการครอบงำ อดีตนายกฯ แทบจะไม่ปรากฏตัวให้เป็นข่าว เท่ากับว่าเพื่อลดแรงเสียดทานที่จะถาโถมเข้าใส่ลูกสาว และพรรคแกนนำรัฐบาล การเมืองที่อ่านทิศทางลม แล้วไม่ฝืนกระแสไม่ว่าจะมาจากพวกใดฝ่ายไหนก็ตาม ย่อมเป็นการถอนฟืนออกจากกองไฟไปโดยปริยาย
ที่ควบคู่มากับปมครอบงำภายใต้การบัญชาของทักษิณ คงหนีไม่พ้นปมที่ผู้สื่อข่าวจี้ถามแพทองธารนั่นก็คือ การรับมือกับนิติสงคราม ที่ถูกเล่นงานกันถ้วนหน้าไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เห็นได้จากกรณียุบพรรคก้าวไกล และการตัดสินให้ เศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่ง แน่นอนว่า ได้เห็นการตั้งการ์ดสูงเพื่อรับมือกับกรณีนี้ตั้งแต่การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีอย่างเข้มข้น จนทำให้ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ต้องถอนตัวไปจากเก้าอี้เสนาบดี นี่ก็เป็นวิธีการหนึ่ง
จะทำให้บทบาทของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ดูแลด้านกฎหมายอย่าง ชูศักดิ์ ศิรินิล ต้องทำงานหนักมากขึ้น แต่คงไม่ใช่สัญญาณแรงกดดันที่จะทำให้นายกฯ หญิงขยับตัวอะไรไม่ได้ เหมือนการตอบคำถามเรื่องนี้ที่ว่า “แค่สื่อมวลชนถามก็สงสารแล้วเนาะ ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดีนะคะ พอมาถึงจุดนี้มีคดีก็จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และจริง ๆ ไม่อยากมีคดี ลูกยังเล็กอยู่เลยนะคะ” ฟังดูจะเหมือนทำนองประชดประชัน ความเป็นจริงก็คือปัด กวาด เช็ดถูกันขนาดนี้ หากยังถูกเล่นงานจนไปกันไม่รอดอีกก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงอนาคตของบ้านเมือง
อย่างที่บอกว่า บทบาทในการทำงาน การโชว์ศักยภาพ แสดงความสามารถในการบริหารประเทศ รวมทั้งความเป็นผู้นำของพรรคเพื่อไทย ที่นอกจากจะได้สะท้อนให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของลูกสาวคนเล็กของทักษิณ ภายใต้การกำกับดูแลใกล้ชิดจากผู้เป็นพ่อแล้ว อีกด้าน คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ย่อมไม่ปล่อยให้ลูกคนเล็กของครอบครัวต้องถูกแรงกระแทก ทำให้เสียหายเหมือนอดีตสามีและน้องสามี จึงทำหน้าที่เบื้องหลังที่แข็งแกร่งในการเดินเกมสร้างเกราะป้องกันทุกทาง
ความจริงแล้วไม่ใช่แค่การแผ้วถางทางการเมือง ในการปูทางให้แพทองธารก้าวขึ้นสู่การเป็นนายกฯ หญิงได้สำเร็จเท่านั้น ก่อนที่จะมีการทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ทุ่มหมดหน้าตักทางการเมืองของทักษิณและครอบครัวชินวัตรนั้น ได้มีการการันตีมาจากอำนาจที่ทรงพลังแล้วว่า ให้ทุ่มเททำงานหลังการเข้าทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เมื่อกำจัดจุดอ่อนต่าง ๆ จนเหลือน้อยเต็มที หากจะมีอะไรที่ทำให้ต้องสะดุดก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่สั่งกันไม่ได้อีกต่อไป นั่นจึงทำให้เกิดความมั่นใจจนฝ่ายหลังบ้านยอมให้ลูกสาวเดินหน้าให้สุดทาง
สำหรับนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภานั้น มีการเผยแพร่คำแถลงของนายกฯ และเนื้อหาของนโยบายที่สรุปเป็นรูปเล่มส่งให้สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความหนา 85 หน้า สาระสำคัญคงอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ โดยจะมีการเร่งจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเร็วที่สุด ยึดโยงกับประชาชนและหลักการของประชาธิปไตย สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล ที่เหมือนเป็นสัญญาประชาคม และต้องจับตาว่ารัฐบาลจะทำได้หรือไม่คือการประกาศว่า จะยึดมั่นในหลักนิติธรรม Rule of Law และความโปร่งใส Transparency
อีกสองเรื่องที่ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเกี่ยวข้องกับฐานอำนาจที่จะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลโดยตรง นั่นก็คือ การปฏิรูประบบราชการและกองทัพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเปลี่ยนผ่านราชการไทยไปสู่ราชการทันสมัยในระบบดิจิทัล หรือ Digital Government ปรับขนาดให้มีความคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการใช้งบประมาณและการปฏิบัติราชการ ปรับขนาด และกำลังคนภาครัฐให้สอดคล้องกับภารกิจ เปลี่ยนผ่านรูปแบบการเกณฑ์ทหารไปสู่แบบสมัครใจ ต้องไปดูว่ารัฐราชการที่ถูกเอาใจอย่างหนักหน่วงช่วงอำนาจเผด็จการครองเมืองนั้น จะเห็นด้วย พร้อมปฏิบัติตามหรือไม่
อรชุน