เกือบแสนล้าน! เทรดหุ้นกลุ่มไหนกัน?

3 วันที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายหุ้นไทยต่อวันพุ่งแรงมาก วันที่ 5 กันยายน มูลค่าเทรดอยู่ที่ 81,736 ล้านบาท วันที่ 6 กันยายน มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 107,404 ล้านบาท และวันที่ 9 กันยายน มูลค่าการซื้อขาย 87,214 ล้านบาท


3 วันที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายหุ้นไทยต่อวันพุ่งแรงมาก

วันที่ 5 กันยายน มูลค่าเทรดอยู่ที่  81,736 ล้านบาท

วันที่ 6 กันยายน มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 107,404 ล้านบาท

และวันที่ 9 กันยายน มูลค่าการซื้อขาย 87,214 ล้านบาท

หากเจาะลึกลงไปพบว่า สัดส่วนของนักลงทุนต่างประเทศ เช่น วานนี้ (9 ก.ย.) ยังมีเปอร์เซ็นต์มากสุดเมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวมหรือคิดเป็น 52%

รองลงมาคือกลุ่มนักลงทุนรายย่อย 33.50%

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 7.37%

และนักลงทุนสถาบัน 7.31%

หากจะถามต่อว่า แล้วมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงนั้น ส่วนใหญ่เทรดหุ้นกลุ่มไหน ตัวไหนกันล่ะ

อ้างอิงจากข้อมูลของวานนี้เช่นกัน และพบว่า วานนี้มีการซื้อขายหุ้นในกลุ่ม SET50 จำนวน 65,531 ล้านบาท คิดเป็น 75.14% ของมูลค่าการซื้อขายรวม (87,214 ล้านบาท)

หรือหากขยายวงออกมาอีก

คือในกลุ่ม SET100 นั้น จะพบอีกว่า มีการซื้อขายด้วยมูลค่ารวม 76,865 ล้านบาท คิดเป็น 88.13% ของมูลค่าการซื้อขายรวม (87,214 ล้านบาท) ดังนั้น อีก 12% (หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) ซื้อขายหุ้นที่อยู่นอกกลุ่ม SET100

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเมื่อเข้าไปดูวอลุ่มเทรดในกลุ่มหุ้น SETESG ยิ่งน่าสนใจ

เพราะตัวเลขออกมาอยู่ที่ 64,727 ล้านบาท คิดเป็น 74.22% ของมูลค่าซื้อขายรวม

มาถึงหุ้นและกลุ่มหุ้นที่อยู่ในกลุ่มที่มีการเทรดกันแบบกระจุกตัว พบว่า ซื้อขายกันมากในกลุ่มธนาคาร ที่นำโดย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และบริษัท เอสซีบีเอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB

เฉพาะ 4 หุ้นแบงก์ดังกล่าวมีมูลค่าซื้อขายรวมกันกว่า 16,346 ล้านบาท คิดเป็น 18.74% (ของมูลค่าซื้อขายรวม)

ประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือว่า หุ้นที่เทรดกันเป็นส่วนใหญ่ในกลุ่มที่เขียนมานี้นั้น

ส่วนใหญ่จะเทรดกันเฉพาะผู้นำในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เป็นหลัก

เช่น แบงก์ ก็จะซื้อขายกันเฉพาะ 4-5 แบงก์ใหญ่

กลุ่มค้าปลีกนำโดย CPALL CPAXT  HMPRO และ CRC

กลุ่มโรงพยาบาลนำโดย BH และ BDMS

กลุ่มสื่อสาร ADVANC INTUCH TRUE

กลุ่มน้ำมัน PTT PTTEP BCP OR

กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์  DELTA

กลุ่มขนส่ง AOT

สรุปเฉพาะ 19-20 หุ้นที่เขียนมานี้มีมูลค่าซื้อขายรวม ๆ กันประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 52% ของมูลค่าซื้อขายรวม

และไม่ได้เฉพาะวานนี้เท่านั้นที่มีการซื้อขายแบบกระจุกกลุ่ม และหุ้นขนาดใหญ่

เพราะย้อนกลับไปดูเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้

หุ้นที่ซื้อขายกัน จะอยู่ในกลุ่มที่เขียนมาทั้งหมดนี่แหละ

ส่วนหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่ปรับขึ้นมา น่าจะได้รับเซนติเมนต์เชิงบวกจากหุ้นขนาดใหญ่เหล่านี้ถูกไล่ราคาขึ้นมา และส่งผลภาพรวมของตลาดดีขึ้น

จากข้อมูล น่าจะพอเป็นคำตอบให้กับกลุ่มนักลงทุน (รายย่อย) ที่มีหุ้นไซส์กลางและเล็กในพอร์ต

และมักจะบ่น ๆ ว่า ดัชนีพุ่งแรง วอลุ่มเกือบแสนล้านบาทต่อวัน

แต่ทำไมหุ้นในพอร์ตตนเองยังแดง และติดลบ

Back to top button