ฝรั่งเก๊?

กลายเป็นเรื่องที่เม้าท์กันสนั่นหวั่นไหวบนโลกโซเชียล เมื่อมีอีลุงคนหนึ่งออกมาโพสต์ถึงเรื่อง “ต่างชาติชั่ว” ในระหว่างที่นักลงทุนต่างชาติเดินหน้าซื้อหุ้นไทย 2 หมื่นล้าน


กลายเป็นเรื่องที่เม้าท์กันสนั่นหวั่นไหวบนโลกโซเชียล เมื่อมีอีลุงคนหนึ่งออกมาโพสต์ถึงเรื่อง “ต่างชาติชั่ว” ในระหว่างที่นักลงทุนต่างชาติเดินหน้าซื้อหุ้นไทย 2 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นประเด็นที่เรียกทัวร์มาลงแบบฉ่ำ ๆ แต่อีลุงก็ไม่ได้แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นฉาก ๆ ว่า ชาติไหนซื้อหุ้นในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกลงถ้วนหน้า ก่อนจะสรุปเบื้องต้นว่า เงินชั่วที่ซุกเมืองนอกไว้นั่นไง..อิอิอิ

พร้อมกันนั้นก็มีเสียงสนับสนุนประเด็นข้างต้นจากผู้จัดการกองทุนแห่งหนึ่งที่ออกตัวแรงแซงทางโค้งว่า เงินที่เข้ามารอบนี้..ไม่ใช่ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ แต่เป็นเงินของนักการเมืองที่ซ่อนไว้ในต่างประเทศ และสิ่งที่พูดออกมาก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวล้วน ๆ แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่กระทบกับหลายภาคส่วนพอสมควร เพราะมันทำให้นักลงทุนเกิดอาการ “เอ๊ะแล้ว..เอ๊ะอีก” พะย่ะค่ะ

ประเด็นดังกล่าวจริงเท็จอย่างไร? ก็คงไม่มีใครที่จะตอบได้ แต่สิ่งที่ยืนยันได้ดีสุดก็คือ รายย่อยได้ออกของฉ่ำ ๆ และรู้สึกแฮปปี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย หลังบรรยากาศลงทุนกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเป็นการตอกหน้ากลุ่มคนที่มีนิสัยชังหุ้นไทยแบบแสบสันต์ ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันทางคารมบนโลกโซเชียลอย่างดุเดือด เพราะมีฝั่งที่ “เห็นด้วย” กับฝั่งที่ “ไม่เห็นด้วย” นะออเจ้า

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้อีฉันเข้าใจในสัจธรรมที่ว่า “ยามศึกเราร่วมกันรบ ยามสงบเรารบกันเอง” แต่สุดท้ายทุกคนก็ลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยสำคัญสุด แถมผู้รู้ส่วนใหญ่ก็มองเป้าบนไว้ที่ระดับ 1,550-1,600 จุดแบบนี้ “โมนิก้า” เลยรู้สึกอุ่นใจในความคิดก่อนหน้าที่ว่า กำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นไทยปีนี้น่าจะอยู่ที่ 90 บาท เมื่อนำมาคิดแบบง่าย ๆ ด้วยการเทรดบน PE 18 เท่า ก็จะได้เป้าที่ 1,620 จุดนะตัวเอง

เมื่อมีประเด็นเงินจากกองทุนวายุภักษ์เข้ามาเติมในตลาดหุ้นอีก 1.50 แสนล้าน “โมนิก้า” ถึงมั่นใจว่า เป้าของดัชนีที่ระดับ 1,600 จุดไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน แต่ในระหว่างทางที่กำลังจะขึ้นต่อ น่าจะมีแรงขายออกมาเป็นระลอก เพื่อทดสอบแรงขายมีเยอะขนาดไหน? และถ้าย้อนกลับมาดูก่อนหน้านี้จะเห็นว่า ในช่วงที่ขึ้น 70 จุด ก็มีแรงขายออกมาประมาณ 20 จุด ต่อจากนั้นดัชนีก็ขึ้นต่อ..จำได้ไหมจ๊ะ

ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงเรื่องฟื้นความจำขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงควันหลงที่เกิดขึ้นในงาน “Thailand Focus 2024” เพื่อชี้ให้เห็นท่าทีของผู้จัดการกองทุนภูมิภาคเอเชียที่ชื่อ “เหี่ยวเฉา” ซึ่งมีท่าทีต่อเรื่องการจำกัดความสามารถของโรบอทในตลาดหุ้นไทย มันเป็นอุปสรรคสำหรับการลงทุนของกองทุนข้ามชาตินั้น กลายเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดเสียงก่นด่าผู้จัดการกองทุนรายนั้นอย่างมากนะจะบอกให้

เนื่องจากโครงสร้างของตลาดหุ้นไทยไม่เหมือนสิงค์โปร์ เพราะตลาดของเราก่อร่างสร้างตัวมาจากนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนกลุ่มนี้ก็อยู่คู่กับตลาดหุ้นไทยมาเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดูเซ็กซี่กว่าประเทศไหน ๆ ในย่านนี้ “โมนิก้า” จึงขอปรบมือสนับสนุนคุณพี่ “พรอนงค์” ที่ออกมาพูดปกป้องรายย่อยบนเวทีแบบสุดซอย เพราะแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับคนในบ้านน่ะซี

ประเด็นดังกล่าวทำให้อีแอบที่สวมวิญญาณโบรกฯ ต่างชาติเกิดอาการดิ้นพล่านเป็นไส้เดือนถูกน้ำร้อนลวก เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ขานรับสิ่งที่พยายามเรียกร้อง แถมคนในวงการต่างรู้ดีว่า โบรกเกอร์รายดังกล่าวเป็นใคร? และเสวยสุขกับโรบอทนานขนาดไหน? เดี๊ยนในฐานะคนที่คลุกคลีกับตลาดหุ้นมานาน จึงอยากอธิบายให้เข้าใจตรงกันว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ห้ามโรบอท! แต่กระบวนการใช้ต้องเป็นธรรมกับนักลงทุนทุกกลุ่มก็เท่านั้นเองค่ะ

ที่น่าสนใจคือ ขบวนการอีแอบถูกฉีกหน้าขนานใหญ่ด้วยแรงซื้อของต่างชาติที่เข้ามาในตลาดหุ้นไทยมากถึงหมื่นล้าน และทำให้คนในวงการได้เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่า กฎระเบียบที่ ตลท. และ  ก.ล.ต. ทำขึ้นมาไม่เป็นอุปสรรคในการลงทุนของต่างชาติ “โมนิก้า” ถึงอยากให้โบรกฯ ดังกล่าวเลิกทำตัวเป็นเด็กงอแงเมื่อไม่ได้ของเล่นเสียที หลังบรรดาขาเผือกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดัดจริต” เกินไปหน่อยแบบนี้..มันตะเตือนไตอย่างแรงนะคุณแม๊!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button