เริ่มหนืด

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่พ้นฮันนีมูน มักจะออกอาการหนืด ๆ เป็นประจำแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเหตุการณ์ปกติที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง และสิ่งที่จะตามมาพร้อมกันก็คือ มูลค่าการซื้อขายจะไม่หนาแน่นเหมือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ รับรู้กันระดับหนึ่ง “โมนิก้า” จึงไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะคนที่ยังอยากเล่นหุ้นก็เล่นหุ้นต่อไปน่ะซี

สิ่งที่ต้องประเมินถัดมาก็คือ เมื่อนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ เริ่มถอนคันเร่ง เพราะอยากรู้เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์จะเข้ามาเยอะไหม? ก็เป็นเรื่องท้าทายผู้เกี่ยวข้องกันทุกฝ่าย เพราะเป็นเกมเดิมพันผู้คนที่หวังสูงกันทั้งนั้น (รวมถึงตัวอีฉันด้วย) เพราะมองในมุมของรัฐบาลเป็นหลักจะเห็นว่า  นี่คือการบริหารหลักทรัพย์ที่รัฐถือครองอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน และมั่นคงนะคะ

ตรงนี้แหละที่ทำให้ “โมนิก้า” สนับสนุนแบบสุดซอย เพราะเป็นการลงทุนในกิจการที่มีความจำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อประเทศในเชิงเศรษฐกิจ และต้องการการส่งเสริมจากภาครัฐ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ เดี๊ยนถึงไม่วอรี่เมื่อเห็นดัชนีแกว่งไปแกว่งมา ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,421.58 จุด บวกไป 6.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.74 หมื่นล้านบาท เพราะทุกคนยังเชื่อว่า อะไรหลายอย่างจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ

ประเด็นดังกล่าวถูกย้ำหัวหมุดด้วยการยกตัวสูงขึ้นของ SCB แม้จะมีจังหวะที่โดนเขย่าแบบแรง ๆ แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาใหม่ และการที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 113 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.37 พันล้านบาท น่าจะเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนอุ่นใจได้ว่า เกมนี้เล่นกันยาวอย่างแน่นอน เพราะยังมีสตอรี่ใหม่ ๆ ที่จะช่วยหนุนให้หุ้นวิ่งไปหาบุ๊กที่อยู่ในระดับ 140 บาทพะย่ะค่ะ

อีกรายที่ขานรับนโยบายของรัฐบาลแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น JMT แบบไม่ลังเลใจ เพราะเมื่อดูจากนโยบายปรับหนี้ในภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน บริษัทตามหนี้เจ้านี้ก็รับเต็มทุกประตูหน้าต่าง โดยเฉพาะในมุมของหนี้เสียที่มีอยู่หลายแสนล้าน มันเอื้อให้บริษัทตามหนี้รายนี้รับจบทุกกระบวนท่า ไม่เชื่อลองไปถาม “สุทธิรักษ์” เขาเตรียมตัวมานานแค่ไหน? และการยืนปิดที่ 18.90 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท มันมีความหมายมากกว่าที่เห็นนะจ๊ะ

เช่นเดียวกับการขยับตัวของหุ้น EA ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 7.20 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 958 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงหนี้สินที่เคยสร้างปัญหาได้เคลียร์แล้ว และต่อจากนี้จะเป็นการลุกขึ้นเพื่อเริ่มเดินใหม่อีกครั้ง และการจะไปถึงฝั่งฝันได้ในเร็ววัน ต้องอาศัยเรื่องการเพิ่มทุนเพื่อหาพันธมิตรมาช่วยต่อยอดโปรเจกต์ที่ค้างอยู่แบบนี้..ถือว่าน่าติดตามดูสุด ๆ นะออเจ้า!

ส่วนหุ้นอีกตัวที่น่าตามดูในแง่ของจะไปต่อไหม? เดี๊ยนขอมองไปที่หุ้น SIRI เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ1.84 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 1.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาท ก็เป็นการขึ้นมาปิดใกล้กับระดับแนวต้านเก่าบริเวณ 1.88 บาทแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่วัดใจนักเล่นอย่างแท้จริง “โมนิก้า” จึงอยากให้คุณ ๆ ท่าน ๆ ประเมินความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกันเอาเองนะจะบอกให้

ผิดกับในรายของ LTS เพราะรายนี้มีเรื่องกำไรโตเป็นแรงหนุนสำคัญ แถมในช่วงที่ผ่านมาก็ทำผลงานได้ตามเป้าเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.90 บาท บวกไป 1.45 บาท หรือขึ้นไป 15.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 154 ล้านบาท เพราะกระแสข่าวเม้าท์เกี่ยวกับเรื่องโตมันมาแรงเหลือเกิน ซึ่งส่งผลให้พวกขาลุยกระโจนใส่กันแบบสุดซอยก็เท่านั้นเอง!

เมื่อตลาดหุ้นให้ความสนใจในสตอรี่ใหม่ ๆ BE8 จึงกลายเป็นอีกหุ้นหนึ่งที่มีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 19.30 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 11.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท ซึ่งเขาว่ากันว่า เพราะเขาคือหนึ่งในตัวเต็งชิงเค้กดาต้าเซ็นเตอร์ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับตามดูกันเอาเองว่า วันนี้ราคาหุ้นจะขานรับสตอรี่ดังกล่าวต่อไหม? เพราะหุ้นเพิ่งขึ้นจริงจังวันแรกน่ะซี

โมนิก้า: และทีมงาน