ไปกันต่อ

เดิมที “โมนิก้า” ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยจะพักตัวเพื่อรอจังหวะทะยานขึ้นไปใหม่ เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนเดิมพันหมดหน้าตักว่า ลดดอกเบี้ยแน่นอน


เดิมที “โมนิก้า” ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยจะพักตัวเพื่อรอจังหวะทะยานขึ้นไปใหม่ เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนเดิมพันหมดหน้าตักว่า ลดดอกเบี้ยแน่นอน จึงไล่ราคาหุ้นอย่างหนักหน่วงก่อนที่ข่าวจริงจะออกมา และมาไล่ราคาหุ้นอีกครั้งวานนี้ โดยตลาดหุ้นไทยไม่มีลักษณะขายเมื่อข่าวจริงปรากฏแบบนี้..ภาษาวัยรุ่นเขาเรียกอาการอย่างนี้ว่า “ไปกันต่อ” ซึ่งเดี๊ยนรู้สึกแฮปปี้มาก ๆ นะจะบอกให้

เนื่องจากปัจจัยหลายอย่างเริ่มส่งผลทางบวกมากขึ้นเรื่อย ๆ และความฝันที่จะได้เห็นดัชนีขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 จุดก็เข้าใกล้ขึ้นมาทุกที จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจังหวะที่ต้องเหยียบคันเร่งให้มิด เพื่อไม่ให้ตัวเองตกขบวนรถด่วนเที่ยวสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” พยายามย้ำกับแฟนคลับเป็นประจำ หลังเห็นกันทนโท่ว่า เงินก้อนใหม่ทยอยไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องน่ะซี

ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,454.84 จุด บวกไป 19.07 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.76 หมื่นล้านบาท จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่นักเล่นต้องประเมินด้วยตัวเองอีกครั้งว่า ตลาดหุ้นไทยเทรดบน PE 18 เท่า เป็นระดับที่สูงเกินไปไหม? เพราะตรงนี้จะเป็นตัวบอกให้นักลงทุนรู้ด้วยตัวเองว่า เหมาะต่อการเข้าลงทุนขนาดไหน? เพราะความเสี่ยงของแต่ละคนที่แบกรับไม่เหมือนกัน เดี๊ยนจึงไม่อยากเป็นคนตัดสินพะย่ะค่ะ

เช่นเดียวกับการไต่เพดานสูงขึ้นเรื่อย ๆ ของหุ้น TRUE ทั้งที่มีผลขาดทุนเรื้อรังติดตัวเป็นเวลานาน แต่นักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าใส่ไม่ยั้ง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นักลงทุนต้องคิดเหมือนกัน แต่เผอิญนักลงทุนสถาบันมองว่า การควบรวมที่เกิดขึ้นจะทำให้บริษัทลดต้นทุนได้เยอะ และจะกลับมาทำกำไรอย่างบูรณาการ จึงเข้ามาไล่ราคาหุ้นต่อเนื่อง จนวานนี้ทำนิวไฮด้วยการปิดที่ระดับ 11.30 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.84 พันล้านบาทเจ้าค่ะ

ถ้าเมาท์ถึงเรื่องความเชื่อขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น IVL เป็นรายถัดมา เพราะรายนี้ก็มีปัญหาเรื่องขาดทุนเหมือนรายข้างต้น และมีความเชื่อว่า หลังจากนี้จะกลับมามีกำไรอีกครั้ง พวกกองทุนเลยเข้ามาไล่ราคาหุ้นเป็นช่วง ๆ จนวานนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ 24.70 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.76 พันล้านบาท พร้อมกับทำนิวไฮในรอบ 4 เดือน โดยที่บุ๊กแวลูอยู่ที่ระดับ 26 บาทแบบนี้..ใครก็เชื่อว่า หุ้นจะไปต่อได้อีกทั้งนั้นจ้า!

ขนาดหุ้น CPN ที่ก่อนนี้กลัวกันเหลือเกิน เพราะกังวลเรื่องกำลังซื้อยังไม่ฟื้น แต่ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความกังวลดังกล่าวจางหายไปหมดแล้ว และถูกแทนที่ด้วยเรื่องเงินทุนไหลเข้าแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเกมไหลตามน้ำที่ไม่ควรอิดออดอะไรทั้งสิ้น ผนวกกับพวกนักวิเคราะห์ให้เป้าหมายขั้นต่ำอยู่ที่ระดับ 74 บาท ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 68.25 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.30 พันล้านบาทน่าสนใจเจ้าค่ะ

เหมือนกับในรายของหุ้นเครื่องดื่มชูกำลัง CBG ก็มีประเด็นที่ทำให้เชื่อว่า ผลงานปีนี้จะออกมาดีเป็นแบ็คอัพ และเมื่อนำมารวมกับนักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาลงทุนแบบจริงจังอีกครั้ง “โมนิก้า” เลยมองการยืนปิดที่ระดับ 76.75 บาท บวกไป 4.25 บาท หรือขึ้นไป 5.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 859 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นต่อแบบยาว ๆ เพราะเคยเห็นกันมาแล้วว่า ก่อนต่างชาติจะถอนยวง ราคาหุ้นเคยวิ่งขึ้นไปแถว 85 บาทนะตัวเอง

เมาท์ถึงหุ้นใหญ่มาเยอะพอสมควร ขอเปลี่ยนไปดูหุ้นไซด์เล็กอย่าง BKGI กันบ้างดีกว่า และเหตุผลที่เดี๊ยนสนใจหุ้นตัวนี้มาจากราคาหุ้นขยับขึ้นเป็นล่ำเป็นสัน ก่อนจะยืนปิดไปที่ระดับ 2.96 บาท บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 13.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132 ล้านบาท จึงกลายเป็นช็อตที่เหมาะสำหรับขาลุยอย่างแท้จริง เพราะเที่ยวก่อนก็ลากขึ้นไปถึง 3.50 บาท ส่วนเที่ยวนี้จะเป็นแบบนั้นไหม? ต้องไปดูกันเอาเองนะคะ

เหมือนกับในรายของ MASTER อาจรูดลงต่อเนื่องเป็นเวลาเดือนกว่า ๆ แต่ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็เริ่มกลับมาใหม่อีกครั้งเช่นกัน “โมนิก้า” เลยมองการยืนปิดที่ระดับ 51 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 77 ล้านบาท เกมาะต่อการโหนกระแสสำหรับขาลุย เพราะกรอบราคาที่เล่นประจำก่อนหน้านี้อยู่ที่ 60-65 บาท โดยมีข้อแม้ว่า ผลงานต้องโตตามที่แมงลือเม้าท์กันนะจะบอกให้

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button