MINT รับเต็มยุโรปไฮซีซั่น

MINT รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 2,823 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,255 ล้านบาท


คุณค่าบริษัท

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 2,823 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,255 ล้านบาท และมีรายได้รวม 44,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 40,607 ล้านบาท

แม้จะเป็นผลงานที่ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาด แต่ถ้าเจาะลึกลงไปจะเห็นว่าผลการดำเนินงานปกติยังแข็งแกร่ง โดยในไตรมาสนี้มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 3,230 ล้านบาท เติบโต 8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,005 ล้านบาท และมีรายได้จากการดําเนินงานแตะระดับ 44,600 ล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 40,504 ล้านบาท

เป็นผลมาจากอุปสงค์การท่องเที่ยวและราคาห้องพักเฉลี่ยที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศไทย รวมถึงการเปิดโรงแรมแห่งใหม่ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับในส่วนของธุรกิจร้านอาหาร มีการนําเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ แคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จ และการขยายสาขา ส่งผลให้มีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นประเทศไทยและสิงคโปร์

ส่วนที่เห็นกำไรสุทธิลดลงนั้น เป็นผลมาจากได้รับผลกระทบด้านลบจากการตีมูลค่าจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งมีดอกเบี้ยจ่ายมากกว่าคาด

ถ้ามองไปข้างหน้า ผู้บริหารมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 จะเติบโตแข็งแกร่ง หลังจากยอดจองห้องพักล่วงหน้าในยุโรปทั้งตอนใต้และตอนเหนือ เช่น สเปน อิตาลี เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากการจัดงานสำคัญต่าง ๆ ทั่วยุโรป

สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์ที่ยังมองบวกกับ MINT โดย บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า เข้าไตรมาส 3 ยังคงเป็นช่วงไฮซีซั่นของโรงแรมในยุโรป โดยในไตรมาส 3/2567 มีปัจจัยหนุนทั้งอัตราการเข้าพัก (Occ.Rate) และรายได้ต่อห้องพัก (ADR) เติบโตต่อเนื่อง จากดีมานด์กลุ่ม Corporate, ฟุตบอลยูโร, กีฬาโอลิมปิก และคอนเสิร์ตต่าง ๆ

ในขณะที่ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ด้านกลุ่มร้านอาหารคาดว่าจะมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นจากอานิสงส์การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ทั้งนี้ช่วงครึ่งปีแรกมีผลการดำเนินงานเติบโต 42.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ของโรงแรมในยุโรปและประเทศไทยที่หนุนยอดเข้าพักและรายได้ต่อห้องพัก (ADR) เติบโต ส่งผลให้ยังคงคาดกำไรปี 2567 ที่ 8.3 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 53% จากปีก่อน

ด้าน บล.ดาโอ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 7.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน จากการฟื้นตัวในทุกประเทศ โดยเฉพาะที่ไทยและยุโรป ขณะที่ปรับกำไรสุทธิปี 2568 ลง 5% จากการปรับดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น MINT ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 22.57 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.88 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 1.92 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.36 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 38.38 บาท จากราคาต่ำสุด 34 บาท และราคาสูงสุด 44 บาท

Back to top button