พาราสาวะถี อรชุน

สมควรจะดีใจหรือไม่กับการที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและขาดการควบคุมหรือไอยูยู ของสหภาพยุโรป ขยายเวลาในการประเมินผลการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของรัฐบาลไทยออกไปอีก 6 เดือนและยังคงสถานะใบเหลืองกับไทยต่อไป เพราะการยืดเวลายิ่งเนิ่นนานมันก็ยิ่งสร้างความอึมครึมให้กับธุรกิจด้านการประมงของประเทศหรือไม่


สมควรจะดีใจหรือไม่กับการที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและขาดการควบคุมหรือไอยูยู ของสหภาพยุโรป ขยายเวลาในการประเมินผลการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของรัฐบาลไทยออกไปอีก 6 เดือนและยังคงสถานะใบเหลืองกับไทยต่อไป เพราะการยืดเวลายิ่งเนิ่นนานมันก็ยิ่งสร้างความอึมครึมให้กับธุรกิจด้านการประมงของประเทศหรือไม่

การที่บอกว่า ไทยมีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา แต่ยังต้องมีการเพิ่มเติมรายละเอียด น่าจะเป็นเครื่องหมายคำถามสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะที่กำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง แสดงความมั่นอกมั่นใจว่าไทยจะผ่านการประเมินได้อย่างแน่นอน เพราะได้ระดมสรรพกำลังทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง

น่าจะเหมือนอย่างที่หลายฝ่ายเคยเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากการดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานที่ทางอียูกำหนด แต่ยังเป็นปัญหาบางทีมันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องความตั้งใจในการแก้ไขเพียงอย่างเดียว ประเด็นเรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตยในประเทศ น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ถูกนำมาประกอบการพิจารณา เช่นเดียวกันกับการประเมินเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา

แรงกดดันภายนอกอย่าบอกว่าไม่มีผล การที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ย้ำหนักแน่นว่าจะต้องเลือกตั้งกลางปี 2560 ให้ได้แม้ร่างรัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านประชามติก็ตาม น่าจะเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง เป็นการยืนยันการบริหารประเทศในฐานะผู้นำไม่ว่าจะมาด้วยวิธีการใด ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด โดยเฉพาะผู้นำจากการยึดอำนาจในวันที่โลกประชาธิปไตยตีโอบประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม การไปพูดบนเวทีมอบรางวัลแสดงความยินดีกับศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารที่ได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2559 ที่โรงเรียนเตรียมทหารเมื่อวันพุธที่ผ่านมา น่าจะเป็นภาพสะท้อนการมองด้านเดียวของท่านผู้นำได้เป็นอย่างดี ด้วยการที่บอกว่า พูดกับสื่อทุกวันทะเลาะกันทุกวัน เพราะต้องร่วมมือกันปฏิรูปประเทศ ต้องอาศัยทุกคนช่วยกัน

แต่เราติดกับดักประเทศของตัวเอง โดยเฉพาะปัญหาคำว่าประชาธิปไตย ตนมายืนตรงนี้เพื่ออะไร กรุงโรมไม่ได้สร้างภายในวันเดียว ประชาธิปไตยเราสร้างมาหลายปียังไม่สำเร็จ ต้องใช้ไม้ค้ำพยุงตลอดเวลา พูดแล้วรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องมาสู้รบ ทหารน่ารังเกียจตรงไหน เขาพยายามสลายทหารให้ได้ จึงขอให้ไปบอกใครก็ไม่รู้ว่าเราไม่ได้หวงสถาบัน แต่เราต้องเป็นแกนให้รัฐและประชาชนช่วยกัน

โดยเน้นย้ำถึงการใช้กฎหมายพิเศษ และอ้างว่าการพบปะนานาประเทศต่างก็ยินดี ต่างชาติเข้าใจหมด เว้นแต่คนในประเทศที่ไม่เข้าใจ ตนประกาศแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป มีทหารได้อะไรมากกว่าที่คิด ทหารไม่มีค่าย ไม่มีแบ่งขั้ว ตรงนี้แหละที่ต้องขีดเส้นใต้ว่าเป็นไปอย่างที่ท่านผู้มีอำนาจยืนยันจริงหรือ โดยเฉพาะตัวคนที่พูด

การโยนความผิดสารพัดไปไว้ที่รัฐบาลเก่าในยามที่ถูกต้อนด้วยคำถามที่ตอบไม่ได้ การเลือกปฏิบัติในการแสดงท่าทีของฝ่ายที่สนับสนุนผู้ยึดอำนาจกับฝ่ายที่คัดค้าน การแสดงออกเหล่านั้นน่าจะเป็นบทพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า ที่อ้างตัวว่าเป็นกรรมการกลางนั้น วางตัวได้สมฐานะของคนเป็นกรรมการหรือไม่ วันนี้คนส่วนใหญ่เห็นภาพกลางกระเท่เร่ไปทั้งบ้านทั้งเมือง

จะว่าไปแล้วเรื่องบทความของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ นั้นได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับผู้นำเหล่าคนมีสีไม่น้อย แต่ตรรกะที่ท่านผู้นำตั้งคำถามว่า คนเขียนบทความทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาตินั้น คำตอบมันมีอยู่ในตัวแล้ว แม้จะไม่ได้จับอาวุธไปเป็นรั้วของชาติ แต่คนอย่างอาจารย์นิธิก็ได้สร้างคุณูปการสอนสั่งลูกศิษย์ลูกหาเป็นบุคลากรคุณภาพให้ประเทศไทยจำนวนไม่น้อย

บางครั้งเรื่องวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศก็น่าเป็นห่วง การเที่ยวไปกล่าวหาคนโน้นคนนี้ว่าสร้างประโยชน์ให้บ้านเมืองแค่ไหนถ้าเทียบกับทหารเชื่อแน่ว่าหลายคนคงไม่สบายใจ โดยเฉพาะกองเชียร์ถ้าไม่หลับหูหลับตาสนับสนุน ต้องไม่ลืมว่า ความเป็นประเทศนั้นมันต้องประกอบด้วยหลายส่วน แต่ละส่วนย่อมมีหน้าที่ในการทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองที่แตกต่างกัน

ถามว่า ถ้าไม่มีนักศึกษาประชาชนออกมาเรียกร้องถามหาประชาธิปไตย แล้วเกิดการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดสลับกับการรัฐประหาร วันนี้คนชื่อประยุทธ์จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศหรือไม่ เช่นเดียวกับถ้าจะถามต่อว่าระหว่างม็อบที่ล้มรัฐบาลเลือกตั้งเพื่อกวักมือเรียกอำนาจนอกระบบ กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งใครสร้างประโยชน์ให้บ้านเมืองมากกว่ากัน มันมีสารพัดคำตอบ

ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้อะไรเป็นบรรทัดฐาน เหมือนอย่างการชูประเด็นว่าด้วยรัฐบาลไม่โกงและการร่างรัฐธรรมนูญต้านคอร์รัปชั่น คำดังว่ามีความหมายกว้าง แต่ในทางการเมืองสามารถดิ้นได้ตามอำนาจสั่งการ หรือใช้ดุลพินิจเลือกข้างมาตีความการตรวจสอบ เพราะในยุคนี้คำว่าโกงมีไว้กล่าวโทษพรรคเพื่อไทย โจมตีนโยบายประชานิยม สร้างเรื่องขาดทุนจากรับจำนำข้าวให้เป็นโกง แต่การโกงของพรรคพวกจะถูกวินิจฉัยว่า เป็นส่วนต่างที่สูงเกินจริง

สรุปแล้วก็คือทุกกลไกปราบโกงในยุคนี้ ล้วนมีเป้าหมายสร้างทางให้คนนอกที่ซุกตัวอยู่ในรหัสว่าที่นายกฯของพรรคการเมืองที่เสนอไว้ 3 คนได้สืบทอดอำนาจทั้งสิ้น จนมีคนค่อนขอดว่านี่คือความเนียนอันอำมหิตภายใต้การร่างรัฐธรรมนูญของ มีชัย ฤชุพันธุ์ หากดูเผินเหมือนเป็นการสร้างกลไกทำให้ประเทศมั่นคงด้วยการสร้างประตูปราบโกงอันแน่นหนา แต่แท้จริงแล้วกลับซ่อนกลลวงให้ผู้มีอำนาจเข้าสู่เก้าอี้ผู้นำแบบง่ายดายนั่นเอง

ปุจฉาที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมีความกระจ่าง ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชนมากน้อยขนาดไหน วันนี้รอฟังมีชัยที่จะนำทีมตั้งโต๊ะแถลงข่าวร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก โดยยืนยันว่าพร้อมที่จะตอบทุกข้อสงสัย ซึ่งก็เชื่อได้ว่าเนติบริกรชั้นครูตอบได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจะช่วยให้นำพาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติหรือก่อกระแสให้เกิดการต่อต้านไปจนถึงวันลงประชามติ ต้องติดตาม

 

Back to top button