‘นมวัวจีน’ เผชิญภาวะล้นตลาด.!

“จีน” กำลังประสบอีกปัญหาใหญ่.!!.นั่นคือ “ผลิตภัณฑ์นมล้นตลาด” หลังอัตราเด็กเกิดใหม่ลดลง ทำให้ความต้องการนมจืดในท้องตลาดลดลง


“จีน” กำลังประสบอีกปัญหาใหญ่.!!.นั่นคือ “ผลิตภัณฑ์นมล้นตลาด” หลังอัตราเด็กเกิดใหม่ลดลง ทำให้ความต้องการนมจืดในท้องตลาดลดลง แม้ว่า “อุตสาหกรรมนมวัว” จะขยายขึ้นช่วงปีที่ผ่านมาก็ตาม ทำให้ผู้ผลิตรายย่อยต้องถอนตัวและผันนมที่เหลือไปให้ประเทศอื่น ๆ แทน..

ปมปัญหา “นมค้างตลาด” ของจีน เป็นผลมาจากนโยบายความมั่นคงทางด้านอาหารของรัฐบาลปักกิ่งที่ต้องการผลักดันอุตสาหกรรมนมวัวด้วยการสนับสนุนการบริโภคและการขยายกิจการ หลังจากเหตุการณ์พบสารเจือปนในน้ำนม ที่ทำให้เด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกกว่า 1,000 คน เมื่อปี พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา ทำให้การส่งออก มีข้อจำกัด ส่งผลให้ผลผลิตนมล้นตลาดมากยิ่งขึ้นอีก

จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและจำนวนประชากรวัยชราที่เพิ่มขึ้นมีส่วนทำให้ดีมานด์ของผลิตภัณฑ์นมวัวราคาสูงอย่างชีส-ครีม-เนยลดลง จากตัวเลขการบริโภคนมวัวจีนลดลงจาก 14.4 กิโลกรัมต่อคนช่วงปี พ.ศ. 2564 เหลือ 12.4 กิโลกรัมต่อคนช่วงปี พ.ศ. 2565 (อ้างอิงจากตัวเลขล่าสุดของกรมสถิติจีน)

ขณะเดียวกันปริมาณการผลิตนมจีน ถือเป็นผู้ผลิตอันดับ 3 ของโลก ทะลุเป้าหมาย 41 ล้านตัน ไปสู่ระดับเกือบ 42 ล้านตัน เมื่อเทียบระดับ 30.39 ล้านตัน ช่วงปี พ.ศ. 2560 นั่นทำให้ราคานมจีน ปรับลงต่ำกว่าต้นทุน 3.8 หยวน (ประมาณ 18 บาท) ต่อกิโลกรัมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565

ตัวเลขจากกรมศุลกากรจีน เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์นมนำเข้าของจีน ส่วนใหญ่มาจากนิวซีแลนด์, เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ปรับลดลง 13% ต่อปี มาอยู่ที่ระดับ 1.75 ล้านตัน ขณะที่ “นมผง” ผลิตภัณฑ์นมนำเข้าอันดับหนึ่งลดลง 21% ต่อปี มาอยู่ที่ระดับ 620,000 ตัน ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา

นอกเหนือจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ตัวเลข “อัตราการเกิดของเด็ก” ลดลง จึงทำให้ความต้องการนมสำหรับเด็กลดลงตามไปด้วย จากข้อมูลของรัฐบาลจีนปี พ.ศ. 2566 อัตราการเกิดของจีน ลงไปอยู่ที่ระดับ 6.39 คนต่อประชากร 1,000 คน ลดลงมาจากปี พ.ศ. 2560 ที่มีระดับ 12.43 คนต่อประชากร 1,000 คน

สมาคมผลิตภัณฑ์นมของจีน (China Dairy Association) ระบุว่าเพื่อจัดการกับผลผลิตส่วนเกิน ผู้ผลิตนมในจีนจึงเปลี่ยนนมดิบเป็นผง จนทำให้เกิดผลนมผงผลิตส่วนเกินมากกว่า 300,000 ตัน ช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. 67ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

โดย “จีน” ยังพยายามส่งออก “นมผงเต็มไขมัน” อีกด้วย แต่ทว่าความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์นมผงปนเปื้อนเมลามีน ที่เป็นเรื่องอื้อฉาวเมื่อปี 2551 ลดทอนศักยภาพส่งออกอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่ A2 Milk บริษัทนมจากนิวซีแลนด์ ที่จำหน่ายนมผงสำหรับทารกในจีน ระบุว่าตลาดนมผงสำหรับทารกจีนด้านปริมาณลดลง 8.6% และด้านมูลค่าลดลง 10.7% ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา 

อนึ่ง “จีน” มีการบริโภคนมสดคิดเป็น 80% ของการบริโภคผลิตภัณฑ์นม ภาคอุตสาหกรรมนมต้องพยายามให้ความรู้แก่ผู้บริโภคให้หันไป “กินนม” รูปแบบอื่น ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาตลาดสำหรับชีส-ครีม-เนยและเปลี่ยนนมให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้น ตามคำเรียกร้องของรัฐบาลจีนเมื่อปี พ.ศ. 2561 แต่ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย เนื่องจากการรัดเข็มขัดของผู้บริโภคจากภาวะเศรษฐกิจจีนซบเซานั่นเอง..!!!

Back to top button