บาทแข็งค่า…ดึงเม็ดเงินต่างชาติ
เมื่อบรรยากาศ “ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็ว” อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันแตะระดับ 32.68 บาทต่อดอลลาร์ จากก่อนหน้าเฉียด 37 บาทต่อดอลลาร์
เมื่อบรรยากาศ “ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็ว” อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันแตะระดับ 32.68 บาทต่อดอลลาร์ จากก่อนหน้าเฉียด 37 บาทต่อดอลลาร์ จัดอยู่ในกลุ่มที่ค่าเงินแข็งเร็วนำสกุลภูมิภาค…ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลัง “เฟด” ประกาศหั่นดอกเบี้ย 0.50% เดือนก.ย. มากกว่าคาด! ทำให้ดึงเม็ดเงินต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นไทย สะท้อนชัดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. ถึงปัจจุบันต่างชาติซื้อสุทธิไปแล้ว 3.33 หมื่นล้านบาทเพคะ
สอดคล้องกับ SET Index ที่ไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่องจากบริเวณ 1,359 จุด ณ วันที่ (30 ส.ค. 67) ขยับขึ้นมาทะลุแนวต้านสำคัญ 1,450 จุดได้สำเร็จ…และสเตปถัดไปมุ่งหน้าไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,470-1,480 จุด!!! ตามลำดับก่อนถึงแนวต้านสำคัญที่บรรดากูรูประเมินไว้ 1,500 จุดนั้นเอง!!! แม้ว่าล่าสุดดัชนีย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,461.58 จุด ลบไปเล็กน้อย 0.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.26 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” เข้าใจว่านักลงทุนต้องขายทำกำไรออกมาบ้างค่ะ
ขณะที่ในรายของ SPALI ลุ้นยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงครึ่งปีหลัง 67 ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยมีการส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียม รวมถึงโครงการแนวราบทยอยโอนเข้ามาหนุนเช่นกัน ผนวกกับบริษัทมีแผนลงทุนซื้อ JV เพิ่มใหม่ 12 โครงการในออสเตรเลีย บวกกับกูรูคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 นี้อยู่ที่ 1.93 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.75% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทำให้ “โมนิก้า” คลายความสงสัยกับการเข้ามาไล่ราคาหุ้นจนขึ้นมาปิดที่ระดับ 20.80 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 5.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 638 ล้านบาทเพคะ
เช่นเดียวกันรายของ TTB เกิดการไล่ราคาอีกครั้งหลังผลักตัว จนวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.96 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 1.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.53 พันล้านบาท แหม่เล่นประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.065 บาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 ต.ค. 67 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 24 ต.ค. 67 “โมนิก้า” มองว่า หลังจากราคาย่อลงมาต่ำกว่า 2 บาท แบบนี้อาจเป็นจังหวะเข้าไปสะสมรอบใหม่แล้วกันจ๊ะ
สอดคล้องกับ BAM ทางนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไร พร้อมราคาเป้าหมายขึ้น…ชี้รับแนวโน้มผลจัดเก็บในครึ่งหลังปี 67 ฟื้นตัวขึ้นได้ดีเลยทีเดียว รวมทั้งปลายปีคาดจะมีรายได้ค่าธรรมเนียมจาก JV เข้ามาช่วยเสริม และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ Dividend Yield ราว 5% ปัจจัยบวกจุก ๆ หนุนให้ราคาหุ้นบนกระดานดีดตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.50 บาท บวกไป 0.20บาท หรือขึ้นไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 260 ล้านบาท “โมนิก้า” คงเห็นภาพเป้าแนวต้าน 10-10.20 บาทอยู่หน้าปากซอยคร้าาา
มาเมาท์ต่อในรายของ PSG กันดีกว่า เห็นราคากลับมารอบนี้ขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.63 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ไฟฟ้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นดีลที่คั่วกันมานานพอสมควร และดูเหมือนใกล้จะปิดดีลแล้วกระมัง!!! บรรดาขาลุยถึงกระโจนเข้าใส่กันอีกครั้ง จนราคาหุ้นวิ่งผ่านเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้นได้เลยเชียวล่ะ… “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตต่อเนื่องที่น่าจะเล่นกันได้อีกเป้าแนวต้านถัดไป 0.69-0.73 บาท แน่นอนเพคะ
ปิดท้ายด้วยตัวของ APP ไม่รู้ว่าหยิบเอายาไวอากร้ามากินผิดหรืออย่างไร!? จุ๊ ๆ ราคาวิ่งปรู๊ดปร๊าดขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.06 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 6.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55 ล้านบาท แต่งานนี้เดี๊ยนขอสกัดขาพวกสายซิ่งไว้ก่อน อิอิ ไม่ใช้อะไรค้างเติ่ง เพราะหากดูพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต บอกเลยว่า “มาไว ไปไว” ยิ่งกว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูง ดันนั้นใครได้กำไรก็ปล่อย ๆ ไปเสียดีกว่าเจ้าค่ะ
โมนิก้า: และทีมงาน