เรื่องเน่าหุ้นไทย

ไม่น่าเชื่อว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยจะมีเรื่องราวที่ทำให้ผู้คนว้าวุ่นจนนั่งไม่ติด แถมแต่ละเรื่องก็มีประเด็นที่ทำขาเผือกรู้สึกงงงวยไปตามกัน


ไม่น่าเชื่อว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยจะมีเรื่องราวที่ทำให้ผู้คนว้าวุ่นจนนั่งไม่ติด แถมแต่ละเรื่องก็มีประเด็นที่ทำขาเผือกรู้สึกงงงวยไปตามกัน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผู้บริหาร บริษัท และผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมกับเกิดคำถามมากมายว่า นี่คือมันนี่เกมที่เริ่มน่าสะพรึงกลัวใช่ไหม? และเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทุนการเมืองด้วยหรือเปล่า? เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้มันเป็นอะไรที่เว่อร์เกินไปน่ะซี

งานนี้จริงเท็จประการใด ไม่มีใครตอบได้ และต้องดูกันไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” จึงขอเม้าท์เฉพาะสิ่งที่แมงลือพูดกันไปเรื่อยเปื่อยดีกว่า เพราะมันทำให้รู้ว่า รายย่อยมีมุมมองต่อเรื่องต่าง ๆ เป็นแบบไหน? รวมถึงการแกว่งตัวไปมาของดัชนี พร้อมกับยกจุดต่ำสุดสูงขึ้นต่อเนื่อง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,455.03 จุด ลบไป 6.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.60 หมื่นล้านบาทแบบนี้ ตามตำราหุ้นเขาเชื่อว่า หุ้นรอจังหวะไปต่อนะนายจ๋า!

ส่วนที่ไม่รออะไรทั้งนั้น เพราะต้องเร่งเคลียร์หลังบ้านให้เสร็จไว ๆ ก่อนที่จะเรือหายไปมากกว่านี้ คงโฟกัสไปที่ THG เป็นลำดับแรก เพราะการปลดเมียหมอบุญให้พ้นทางตั้งแต่เรื่องแดงขึ้นมา มันตีความได้อย่างเดียวว่า ต้องการปูพรมตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินทุกเม็ด และหมอเอื้อชาติต้องการตัดความสัมพันธ์กับตระกูล “วนาสิน” หลังกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงโดนดูดเงินไปหลายร้อยล้านพะย่ะค่ะ

เรื่องดังกล่าวน่าจะจบเพียงแค่นี้ แต่ดันมีการปูดข่าวใหม่ขึ้นมาอีกชิ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเอาหุ้นไปตึ๊งไว้ที่ บล.คิงส์ฟอร์ด และถือเป็นคราวซวยของโบรกฯ นี้ เมื่อมาเจอลูกหนี้ที่มีเหลี่ยมแพรวพราว “โมนิก้า” จึงรู้สึกเห็นใจปอป้อที่ต้องประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ และขอเป็นกำลังใจให้ตามหนี้ได้ครบทุกสตางค์ เพราะเสือเฒ่ารายนี้มีประวัติโชกโชนในโลกการเงินเป็นเวลานาน แถมมูลหนี้รวม ๆ เที่ยวนี้ก็ปาเข้าไป 7 พันล้านบาท เลยไม่รู้ใครจะได้เงินคืนบ้าง..อิอิอิ

อีกหนึ่งเรื่องร้อนที่สังคมกำลังให้ความสนใจก็คือ NUSA หลังมีข่าวเม้าท์ในทำนอง “เจ๊ ม.” ได้หันมาจับมือกับตัวแสบอย่าง “ตี๋ ณ.” เพื่อช่วยกันถล่ม “เสี่ย ป.” ให้ยับในเร็ววัน และสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่หันมาจูบปากกันอย่างดูดดื่ม ก็มาจากทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกัน เดี๊ยนเลยมองความขัดแย้งตรงนี้เป็นอะไรที่นักลงทุนต้องติดตามให้ดี เพราะตัวละครที่กล่าวถึงในเที่ยวนี้ ไม่ธรรมดาทั้งนั้นเจ้าค่ะ

งานนี้ใครจะ “ถูกหรือผิด” ก็ว่ากันด้วยพยานหลักฐานที่แต่ละฝ่ายงัดออกมาสู้ รวมทั้งการที่ผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขตั้งแต่ปี 66 และในระหว่างทาง ตลท. ได้สั่งให้บริษัทออกมาชี้แจงธุรกรรมต่าง ๆ จนสุดท้าย ก.ล.ต. เป็นคนออกโรงฟันว่าผิดเต็มประตูหน้าต่างแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นศึกหนักที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องหาข้อมูลมาหักล้าง ขณะที่สังคมพากันเชื่อว่า มีซัมติง!..นะจะบอกให้

ในเมื่อเม้าท์ถึงเรื่องที่เคลือบแคลงสงสัย “โมนิก้า” ก็ต้องเอ่ยถึงการทุบหุ้น VGI แบบหฤโหดของพวกอีแอบ ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามปั้นสตอรี่ให้ทุกคนเชื่อตามว่า มีดี! พร้อมกับอ้างถึงกลุ่มทุนดูไบหนุนหลัง แต่พอดูไปดูมากองทุนดังกล่าวอยู่ที่ประเทศลักเซมเบิร์กแบบนี้ มันทำให้มีกลิ่นตุ ๆ โชยมาแต่ไกล รวมทั้งการโยนบิ๊กล็อตที่ราคาปิดตลาดเมื่อก่อนเป็นของใคร ก็ยังเป็นเรื่องที่สังคมคาใจอย่างมากนะจ๊ะ

สถานการณ์ดังกล่าวเชื่อมโยงโดยตรงกับสถานการณ์ของหุ้น MFC หลังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะไป ๆ มา ๆ ก็เป็นกลุ่มเดียวกันกับข้างต้นเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน “เสี่ยไมค์” และตรงจุดนี้เองที่ทำให้แมงลือเม้าท์กันสนั่นหวั่นไหวว่า เกี่ยวข้องกับทุนการเมืองหรือเปล่า? และคนที่ทำหน้าที่ไล่บี้ข้อมูลได้ดีสุดก็คือ ตลท. แต่จะกล้าทำถึงระดับไหน? อันนี้ก็ต้องดูกันต่อไป เพราะเขาก็เป็นคนที่ถูกส่งมาจากฝั่งการเมืองนะนายจ๋า!

ตบท้ายกันที่หุ้น WARRIX กันดีกว่า เพราะตั้งแต่มีเรื่องมีราวเกี่ยวกับหุ้นหาย พร้อมกับออกมาโวยวายพักใหญ่ และประกาศกร้าวให้มีการตรวจสอบกลุ่มคนที่ทำให้เกิดปัญหา แต่สุดท้ายก็ต้องจำนนด้วยหลักฐาน เพราะตัวเองเป็นคนเอาหุ้นไปตึ๊งนอกตลาด บรรดาขาเผือกเลยอยากรู้ว่า วันนี้ได้หุ้นคืนมาครบหรือยัง? และคุณน้องมาดแมน “วิศัลย์” อยากบอกอะไรกับสังคมอีกไหม?..รักนะ..จุ๊บ..จุ๊บ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button